นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS Growth) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเติบโต 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐจะเริ่มลงทุนมากขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักให้แนวโน้มของการเติบโตกำไรของบจ.มีแนวโน้ที่เพิ่มขึ้นตาม
ปัจจุบันสมาคมฯ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นช่วงขาขึ้นอยู่ โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว โดยมีปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น หลังภาคการส่งออกของไทยและกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว และการลงทุนของภาครัฐที่มีบางโครงการเริ่มมีความชัดเจนในช่วงต้นปี แต่การลงทุนอย่างจริงจังคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะเป็นการเติบโตได้เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นของดัชนีที่อาจจะอยู่ในกรอบจำกัด เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการปรับตัวขึ้น ประกอบกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนในประเทศยังมีตัวเลขการเติบโตเพียงหลักเดียว เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเติบโตเป็น 2 หลัก ทำให้ความน่าสนใจในตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ใน AEC แต่เชื่อว่าหากภาครัฐเร่งลงทุนก็จะส่งผลต่อภาพรวมที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังคงประมาณการดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,650 จุด
ส่วนเหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศอังกฤษที่เกิดขึ้นล่าสุด มองว่าไม่น่าส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นปัจจัยที่เกิดเฉพาะในประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีผลกระทบกับโซนยุโรปมากกว่า และขณะนี้เคลื่อนย้ายเงินทุนมีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน้อยลง เพราะความชัดเจนของทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ เริ่มมีการอัดฉีดเงินลดลง และพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากปัจจัยภายนอกมากนัก