(เพิ่มเติม) DNA ชูธุรกิจ KingKongPhone ดันปี 60 รายได้พุ่ง-พลิกพื้นเป็นกำไร,หวังทยอยล้างขาดทุนฯตั้งแต่ปี 61

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 23, 2017 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ดี เอ็น เอ 2002 (DNA) ทุ่มทุนขยายสาขา KingKongPhone ร้านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริม โดยใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท ขยายสาขาอย่างน้อย 60-70 สาขาเน้นตลาดต่างจังหวัด และคาดเริ่มรับรู้ฯธูรกิจน้ำประปาในปลายปีนี้ เชื่อว่าจะช่วยผลักดันรายได้ปี 60 เติบโตพุ่งเป็น 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 457 ล้านบาท และหวังเริ่มทยอยล้างขาดทุนสะสมที่มี 600-700 ล้านบาทตั้งแต่ปี 61 โดยใช้เวลา 3 ปี จากปีนี้ที่คาดผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรจากปีก่อนขาดทุน 270.87 ล้านบาท

นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร DNA เปิดเผยว่า บริษัทเปลี่ยนธุรกิจจากสื่อโอมเอนเตอร์เทนเมนท์ เข้าสู่ธุรกิจจำหน่ายสมาร์ทโฟนในปีนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นการเริ่มจากศูนย์ เพราะยังมีทีมงานและสาขาเดิมที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นร้าน "KingKongPhone" ซึ่งเริมดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 59 ภายใต้บริษัท ดี เอ็น เอ รีเทลลิงก์ จำกัด ที่ DNA ถือหุ้น 55% ขณะนี้มี 36 สาขาทั่วประเทศแล้ว

ในปีนี้บริษัทคาดจะมีรายได้จากขายสมาร์ทโฟนผ่านร้าน KingKongPhone จะเติบโตเป็น 1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 325 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 60-70 สาขา เป็นอย่างน้อย 100 สาขา ใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท โดย DNA ลงทุนตามสัดส่วนถือหุ้น หรือ คิดเป็นเม็ดเงินราว 150 ล้านบาท

ดังนั้น บริษัทจึงคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตกระโดดเป็น 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 457 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 50% มาจากร้าน KingKongPhone และอีก 35% จะมาจากธุรกิจอาหาร คือ บริษัท บัน จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 69.50% ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้น บริษัท บัน ไม่มีมติขายธุรกิจออกไปแล้ว แต่จะปรับทีมขายและมีการเพิ่มทุนอีก 30-40 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 80 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจอาหารที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยเร็วๆ นี้จะนำเข้าคณะกรรมการของบริษัท บัน เพื่อพิจารณาอนุมัติ

สำหรับสัดส่วนรายได้ที่เหลืออีก 15% มาจากรายได้อื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจน้ำประปาที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยองเห็นชอบให้บริษัท เสม็ดยูทิลิตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DNA ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบบริหารจัดการน้ำบนพื้นที่เกาะเสม็ด โดยขณะนี้อยู่ในช่วง 60 วันเพื่อรอ อบจ.ระยอง ลงนามสัญญาสัมปทานและหาผู้รับเหมา โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท หากเซ็นสัญญาได้จะเริ่มงานก่อสร้างไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันเซ็นสัญญา จากนั้นก็จะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงปลายปีนี้ราว 100-200 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจ Digital Content ซึ่งขณะนี้ได้วางระบบ Inroom Entertainment Services ให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพ เฟสแรกเสร็จแล้ว และเตรียมจะทำเฟส 2 ให้ครบโรงพยาบาล 36 แห่งของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพภายใน 3 ปี และยังมีลูกค้าโรงแรม รวมทั้งมีธุรกิจไฟเบอร์ออพติกที่ปัจจุบันที่ บมจ.กสท โทรคมนาคม เป็นลูกค้า

"เราโชคดีที่ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ เราเห็นว่าทิศทางนี้จะไปได้ดี เราเคยทำงานวงการไอที มีการปรับรูปปบบเราค่อยๆลดเรื่องซีดี เป็นการขายมือถือแอนดรอยด์ เราจะเป็น Android Expert"นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมนำเสนอธุรกิจใหม่ให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติในช่วงปลายเดือน มี.ค.หรือต้นเดือน เม.ย.60 หากได้รับความเห็นชอบก็คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้

ส่วนการเพิ่มทุนจดทะเบียนด้วยการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 1,587,499,776 หุ้น ที่เตรียมจะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นนั้น คาดว่าจะระดมทุนได้ราว 600-700 ล้านบาทเพื่อนำเงินไปลงทุนขยายธุรกิจ

นายสามารถ กล่าวว่า ในปี 60 บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรแต่คงไม่มากนัก เพราะธุรกิจขายสมาร์ทโฟนมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ไม่สูง ขณะที่ปีก่อนมีผลขาดทุน 270.87 ล้านบาท โดยได้ตั้งสำรองและการด้อยค่าการลงทุนของธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ รวมประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนจะเริ่มล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 600-700 ล้านบาทตั้งแต่ปี 61 คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปีในการล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด

ด้านนายนิพนธ์ รักศรีอักษร ซีอีโอ บริษัท ดี เอ็น เอ รีเทลลิงก์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายสาขาร้าน KingKongPhone ในห้างบิ๊กซี เซ็นทรัล โรบินสัน แม็คโคร จากเดิมที่มีสาขาตามห้างเทสโก้ โลตัส คาดว่าต้นเดือน เม.ย.จะมีจำนวนเพิ่มสาขาเป็น 42 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีอย่างน้อยมี 80 สาขา

ทั้งนี้ ร้าน KingKongPhone จะจับตลาดกลาง-ล่าง โดยเน้นขายสมาร์โฟนระบบแอนดรอยด์ ยี่ห้อ oppo, vivo สัดส่วนยอดขายทั้งสองยี่ห้อรวมกันราว 60% ของยอดขายทั้งหมด รวมทั้งขายอุปกรณ์สื่อสารและ Accessory โดยปีนี้จะรักษาระดับราคาขายต่อเครื่องใกล้เคียงปีที่แล้วที่มีราคาเครื่องเฉลี่ย 7,500 บาท/เดือน จากราคาขายสมาร์ทโฟนที่อยู่ในช่วง 3,000-18,000 บาท/เครื่อง โดยปี 59 มียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟน 14 ล้านเครือง คาดว่าปีนี้จะเติบโตราว 3-5%

"การขยายสาขาจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดยายสาขามากขึ่น เพราะธุรกิจนี้มีมาร์จิ้นต่ำมาก หรือ single digit จึงทำวอลุ่มให้มาก เพราะต้นทุนการบริหารและขายไม่ได้เพิ่มมาก"นายนิพนธ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทกำลังมีแผนร่วมขยายการบริการกับ ทรู ช็อป เร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันมอบประโยชน์สูงสุดด้วยการบริการแบบทั่วถึงและประทับใจแก่ลูกค้า

ทั้งนี้ โครงการ “คิงคองแคร์" นับเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ KingKongPhone ที่มาพร้อมกับกิจกรรมที่มอบประโยชน์สูงสุดและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการกับเรา รวมทั้งกิจกรรมคืนกำไรไห้กับลูกค้าที่จะจัดให้มีขึ้นตลอดทั้งปีนี้ เป็นเจตนารมณ์ที่เราต้องการตอบแทนลูกค้าและสร้างจุดยืนของแบรนด์ด้วยการมอบความคุ้มครองลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ของ 2 แบรนด์ดังทั้ง vivo และ OPPO


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ