บมจ.แผ่นดินทอง พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า บริษัทมีโอกาสที่จะพิจารณาปรับเพิ่มหมายยอดโอนของโครงการทาวน์โฮมในปี 60 เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายปัจจุบันที่ตั้งไว้ 7 พันล้านบาท หลังยอดขายโครงการทาวน์โฮมในไตรมาสแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งทำยอดขายโครงการทาวน์โฮมไปแล้ว 3.96 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะทยอยโอนในช่วงไตรมาส 2/60 ทำให้บริษัทมองว่าอาจจะทำยอดโอนโครงการทาวน์โฮมได้เกินเป้าหมาย ส่วนยอดโอนโครงการบ้านเดี่ยวในปี 60 ได้ตั้อเป้าอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท โดยบริษัทได้ตั้งเป้ายอดโอนในปี 60 รวม 1.12 หมื่นล้านบาท
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด GOLD กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมในไตรมาส 1/60 ได้อยู่ที่ 5.16 พันล้านบาท โดยมียอดขายเฉพาะโครงการทาวน์โฮมในไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 3.96 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของไตรมาสแรกที่ตั้งไว้ 81% หรือราว 2.19 พันล้านบาท
ยอดขายดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากการเปิด 3 โครงการทาวน์โฮมใหม่ มูลค่าโครงการรวม 2.7 พันล้านบาท ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีในแง่ยอดขายจากลูกค้า ได้แก่ โครงการ Golden Town อ่อนนุช-ลากระบัง มูลค่า 714 ล้านบาท, โครงการ Golden Town วงศ์สว่าง-รัชดา มูลค่า 721 ล้านบาท และโครงการ Golden Town บางนา-สวนหลวง มูลค่า 1.26 พันล้านบาท
สำหรับโครงการ Golden Town อ่อนนุช-ลากระบัง และโครงการ Golden Town วงศ์สว่าง-รังดา ได้ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน Golden Town บางนา-สวนหลวง ทำยอดขายได้ 812 ล้านบาท
ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะทำยอดขายได้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายรวมในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการทาวน์โฮม 1.3 หมื่นล้านบาท และยอดขายจากโครงการบ้านเดี่ยว 5 พันล้านบาท
นายภวรัญชน์ กล่าวอีกว่า ไตรมาส 2/60 บริษัทเตรีมเปิดโครงการทาวน์โฮมใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.3 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการ Golden Town 2 สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา มูลค่า 1 พันล้านบาท และโครงการ Golden Town ศรีราชา มูลค่า 1.3 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายในไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท
บริษัทมองว่าแนวโน้มของภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มค่อยๆเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากในช่วงไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา หลังจากผ่านช่วงการชะลอตัวไปแล้วในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และความมั่นใจของประชาชนเริ่มหลับมามากขึ้น จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัว ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยค่อยๆเพิ่มขึ้นตาม
“ทาวน์โฮมยังเป็นที่ต้องการของตลาดและมีการแข่งขันสูง ทำให้ที่ผ่านมาอาจมีการลอกเลียนแบบกันได้ในด้านรูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งทำให้ทาวน์โฮมหลายๆ แห่งเริ่มมีหน้าตาและฟังก์ชั่นเหมือนโกลเด้น ทาวน์ แต่ในเรื่องของยอดขายอาจไม่สูงเท่า เพราะยังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีก ที่ลอกกันไม่ได้ เช่น ภาพลักษณ์ ความเป็นที่รู้จัก และวัฒนธรรมองค์กร โดยองค์ประกอบเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องสร้างและเลียนแบบกันไม่ได้ แต่จะส่งผลให้มีการเติบโตแบบต่อเนื่องและเป็นขั้นเป็นตอน"นายภวรัญชน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ยังกดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ คือ ภาวะหนี้สินครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อของลูกค้า ที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงมีความเข้มงวดมาก ซึ่งบริษทมองว่าปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อโครงการคอนโดมิเนียมมากกกว่าโครงการแนวราบ โดยเฉพาะโครงการทาวน์โฮม
แม้ว่าบริษัทจะมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าอยู่ในระดับ 30-40% แต่บริษัทมีการบริหารจัดการและการเตรียมตัวให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งสุดท้ายหากทูกค้าไม่สามารถขอสินเชื่อได้ บริษัทก็จะนำยูนิตนั้นไปขายให้กับลูกค้ารายอื่นที่มีความพร้อม ทำให้สต๊อกที่พร้อมขายของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ไม่มากนัก โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 2.64 พันล้านบาท จากโครงการที่เปิดขายไปแล้วทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.27 หมื่นล้านบาท
ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 7.8 พันล้านบาท โดยปัจจุบันได้ใช้ซื้อที่ดินไปแล้ว 50% ของงบที่ตั้งไว้ และคาดว่าจะใช้ครบทั้งหมดภลยในครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปีถัดไป โดยการเปิดโครงการใหม่ไนปีนี้ทั้งหมด 21 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.1 หมื่นล้านบาท บริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาไว้ครบทั้งหมดแล้ว โดยเป็นการเปิดโครงการทาวน์โฮม 17 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 4 พันล้านบาท