โบรกเกอร์ เชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) หลังมองงวดไตรมาส 1/60 จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 231 ล้านบาท หลัก ๆ จากธุรกิจเดินเรือที่ดัชนีค่าระวางเรือ BSI (TTA ใช้ในการอ้างอิงเป็นหลัก) และดัชนีค่าระวางเรือ BDI ไตรมาสแรกปรับตัวขึ้นมามากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 อีกทั้งราคาหุ้น TTA ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book value) ที่ 12.6 บาท จึงมีความน่าสนใจและปลอดภัยหากเข้าลงทุน
นอกจากนี้ TTA ขยายสู่ธุรกิจอาหารหลังจะเข้าซื้อกิจการ"พิซซ่า ฮัท"ในไทย จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด แม้ปัจจุบันยังขาดทุนอยู่ แต่มีแผนใน 4-5 ปีเพิ่มสาขาอีก 100 สาขาส่งผลดีต่อ Economy of scale คาดดีลนี้จบไตรมาส 2/60 อีกทั้งทางยัม เรสเทอรองตส์ฯ อาจขาย KFC ด้วย มีความเป็นไปได้ที่ TTA จะสนใจเข้าลงทุน
ส่วน เมอร์เมด มาริไทม์ เริ่มมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันฟื้นตัว ขณะ พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) ก็ดูดีขึ้นจากที่ปีก่อนเวียดนามเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้เน้นการส่งออกมากขึ้น ด้าน ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) น่าจะมีผลขาดทุนลดลงจากปริมาณและราคาขายถ่านหินสูงขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับต่ำจึงทำให้ยังมีผลขาดทุน
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ในช่วง 550-797 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 418 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากค่าระวางเรือที่ฟื้นตัวขึ้นในปีนี้
ราคาหุ้น TTA พักเที่ยงอยู่ที่ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+1.52%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.06%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 12.60 บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 11.90 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 10.70 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 13.00
นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น TTA มีความน่าสนใจในการทยอยซื้อ จากคาผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 จะฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 231 ล้านบาท
โดยหลักมาจากธุรกิจเดินเรือ ในไตรมาส 1/60 ดัชนี BSI ปรับตัวขึ้นมาถึง 111% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 และดัชนี BDI ก็ปรับตัวขึ้นมา 151% ทำให้คาดว่าค่าระวางเรือที่ TTA จะได้รับคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เช่นกัน ดังนั้น ธุรกิจเดินเรือคาดว่าจะพลิกเป็นกำไรได้ จากไตรมาส 1/59 ที่ TTA มีค่าระวางเรือที่ขาดทุน 264 ล้านบาท
นอกจากนี้ TTA ยังจะเข้าซื้อกิจการ "พิซซ่า ฮัท"ในไทย จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ แม้ว่าปัจจุบันกิจการจะยังขาดทุนอยู่ และมีสาขาอยู่ 92 สาขา แต่เป้าหมายใน 4-5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มอีก 100 สาขา สาขาที่มากขึ้นจะได้ Economy of scale ทำให้มีกำไรดีขึ้น โดยดีลนี้คาดว่าจะจบในไตรมาส 2/60 อีกทั้งทางยัมเรสเทอรองตส์ฯ ยังคิดที่จะขายธุรกิจ KFC ด้วย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่ TTA จะสนใจเข้าลงทุน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดประมูล
สำหรับบริษัทลูกอย่าง บมจ.เมอร์เมด มารีนไทม์ หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวทำให้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น โดยมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 59 ราว 170 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ส่วน PMTA ซึ่งทำธุรกิจปุ๋ย ก็ดูดีขึ้น จากที่ปี 59 เวียดนามเผชิญกับภัยแล้ง ทำให้เน้นการส่งออกมากขึ้น ด้าน UMS ธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินก็น่าจะขาดทุนลดลง จากรายได้ที่จะสูงขึ้นตามปริมาณและราคาขายที่ดีขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับต่ำทำให้น่าจะยังมีผลขาดทุนอยู่
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ไว้ที่ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 418 ล้านบาท ทั้งนี้หลัก ๆ มาจากค่าระวางเรือที่ฟื้นตัวขึ้น
ด้านนายจรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่าราคาหุ้น TTA ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book value) ที่ 12.60 บาท จึงมีความน่าสนใจและปลอดภัยหากเข้าลงทุน นอกจากนี้ คาดว่าผลงานไตรมาส 1/60 จะฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากดัชนี BDI สูงขึ้นเฉลี่ย 900 จุดในไตรมาส 1/60 ขณะที่ไตรมาส 1/59 ถือว่าต่ำมากเฉลี่ยอยู่ที่ 358 จุด
สำหรับบริษัทลูกก็มีพัฒนาการที่ค่อนข้างดี อย่าง บมจ.เมอร์เมด มารีนไทม์ ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นไปมาก ทำให้การขุดเจาะน้ำมันดีขึ้น ส่วนการจะเข้าไปลงทุนใน"พิซซ่า ฮัท"ในไทยก็เป็นการกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(Food & Beverage) ซึ่งตลาดฯอาจไม่ค่อยชอบมากนัก เพราะกระจายธุรกิจมากเกินไป ซึ่งในมุมมองของกองทุนก็ไม่ค่อยชอบลงทุนในธุรกิจที่เป็นโฮลดิ้งที่กระจายการลงทุนธุรกิจหลากหลาย
นอกจกานั้น ที่ผ่านมา TTA ได้ขายเรือออกไปมาก ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น ในแง่ของการได้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (ASSET) ทำให้ไม่ได้รับประโยชน์มากนัก เมื่อเทียบกับ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ที่น่าจะดีกว่า เพราะปัจจุบันมีจำนวนเรือที่มากกว่า TTA
ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการ TTA ในปีนี้จะพลิกมีกำไรสุทธิราว 797 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 418 ล้านบาทในปีที่แล้ว
ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น TTA จากดัชนี BDI ปรับขึ้นเกือบ 22% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็น Sentiment บวกต่อค่าระวางเรือเทกอง เมื่อบวกกับราคาน้ำมันดิบมีการฟื้นตัวดีขึ้นช่วยเอื้อต่อธุรกิจเรือขุดเจาะน้ำมันและเรือวิศวกรรมใต้ทะเล ของเมอร์เมดฯ จึงคาดปี 60 TTA มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง และปัจจุบันยังเทรดต่ำ BVS โดยมี P/BV เพียง 0.87x