นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้น SCC ในวันนี้อนุมัติให้บริษัทเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้อีก 5 หมื่นล้านบาท รวมเป็นวงเงินทั้งหมด 3 แสนล้านบาท จากเดิม 2.5 แสนล้านบาท เพื่อรองรับความสามารถในด้านแหล่งการจัดหาแหล่งเงินทุนในอนาคตเพื่อการลงทุนต่างๆ ของบริษัท
โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์แบบครบวงจรในประเทศเวียดนาม ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าถือหุ้นเพิ่มใน Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) เป็น 71% จากเดิมที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 46%เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินโครงการ
สำหรับโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ภายในช่วงระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี และจะเริ่มผลิตได้ภายในปี 64 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมแผนลงทุนและประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในครึ่งปีแรกของปีนี้ และน่าจะเริ่มลงทุนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 60
"แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนจะมาจากการระดมทุนในวิธีต่างๆ และการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งการออกหุ้นกู้ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่บริษัทให้ความสนใจ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องขออนุมัติวงเงินหุ้นกู้เพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาทในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้"นายรุ่งโรจน์ กล่าว
จุดเด่นของโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม คือ โรงงานผลิตเอทีลีน กำลังการผลิต 1 ล้านตันต่อปี และมีความ ยืดหยุ่นในการเลือกใช้ก๊าซร่วมกับแนฟทาเป็นวัตถุดิบในสัดส่วนต่างๆ เพื่อการผลิตโอเลฟินส์รวมกันได้สูงถึง 1.6 ล้านตัน/ปี ทำให้สามารถใช้ก๊าซเพื่อบริหารต้นทุนได้สูงสุดถึง 80% นอกจากนี้ ยังมีโรงงานปิโตรเคมีขั้นปลายที่ผลิตโพลิโอเลฟินส์ (PE/PP) กำลังการผลิตใกล้เคียงกันอีกด้วย
ปัจจุบัน SCC ได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 1.66 แสนล้านบาท ซึ่งการเพิ่มวงเงินออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีความพร้อมมากขึ้นในการลงทุนต่างๆในระยะยาวหากมีโอกาสเข้ามา โดยบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการต่างๆเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น ในปี 60 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนรวมกับงบสำหรับใช้ในการซื้อกิจการและร่วมทุนอยู่ที่ 6-7 หมื่นล้านบาท