นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในระหว่างรอติดตามการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2 ฉบับในวาระที่ 2 เพราะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) แต่หุ้น PTT น่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้บ้าง
อย่างไรก็ดี วันนี้มี DW หลายตัวครบอายุ ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมามักจะทำให้ตลาดฯเหวี่ยงในช่วงท้าย แต่เชื่อว่าการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯน่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า
พร้อมมองวันนี้ตลาดฯคงเป็นลักษณะเทรดดิ้งเลือกเล่นเป็นรายตัว ให้แนวรับ 1,568-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,583 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,659.32 จุด ลดลง 42.18 จุด (-0.20%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,897.55 เพิ่มขึ้น 22.41 จุด (+0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,361.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด (+0.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 66.66 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 37.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.28 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 มี.ค.60) 1,574.97 จุด ลดลง 1.75 จุด (-0.11%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 154.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 มี.ค.60) ปิดที่ 49.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 มี.ค.60) ที่ 6.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.40 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 34.40-34.55 รอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง
- แบงก์ชาติปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้โต 3.4% จากเดิม ที่ 3.2 % ส่วนปีหน้าโตต่อเนื่อง 3.6% หลัง ส่งออกฟื้นตัวดีกว่าคาด และท่องเที่ยวเติบโตสูง แต่ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งนโยบายการค้าสหรัฐและการเมืองในยุโรป ห่วงเงินบาทแข็งค่ากว่าคู่แข่ง ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเมินแนวโน้มผันผวนมากขึ้น
- จับตา สนช.พิจารณาร่างกฎหมายปิโตรเลียม 2 ฉบับวันนี้ พลังงานแถลงค้านตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ขณะกลุ่ม คปพ.แจงอีกรอบค้านทั้ง 2 ฉบับ เอกชนเสนอใช้ม.44 แก้ปัญหากลับไปใช้กฎหมายเดิมเร่งเปิดสัมปทาน ขณะที่กระทรวงพลังงานยันยังไม่เห็นความจำเป็นในการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (เอ็นโอซี) เนื่องจากรูปแบบการบริหารพลังงานของประเทศมีความเหมาะสมอยู่แล้ว
- คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ กล่าวว่า จะหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อตั้งกระดานหุ้นให้ผู้ประกอบการใหม่ หรือสตาร์ทอัพ ในรูปแบบตลาด Over The Counter (OTC) โดยเปิดให้บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งและยังไม่มีกำไรสามารถเข้าร่วมในตลาดนี้ได้
- คณะกรรมการ PPP ไฟเขียวดันอีก 6 โครงการลงทุน มูลค่า 6 แสนล้านบาท เข้า Fast Track คาดเริ่มเปิดประมูลได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ "สมคิด" มั่นใจเรียกความเชื่อมั่นฟื้นเต็มพิกัด
- ASAP (บมจ. ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์) เทรดวันนี้วันแรก หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ราคาขาย IPO 3.03 บาท/หุ้น โดยบริษัทฯให้บริการ"asap" ด้วยรูปแบบการให้บริการที่หลากหลายทั้งรถยนต์ให้เช่าระยะยาว (Operating Lease) สำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา และรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine) สำหรับลูกค้านิติบุคคลที่มีความต้องการเช่ารถยนต์พร้อมบริการคนขับรถ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม
- EA (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 34 บาท ส.ป.ก ไม่เพิกถอน 16 โครงการพลังงานลม (ของ EA 5 โครงการ 260 MW) เป็นข่าวดี แม้ COD จะล่าช้าออกไป 3-4 เดือน แต่กำลังผลิตใหม่ที่จะเข้าในเดือน เม.ย. 60 และ 4Q61 จะหนุนกำไรโต 35% ในปี 2559-2562 มองแนวโน้มธุรกิจอุปกรณ์กักเก็บพลังงานจะดีในระยะยาว
- TU (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไรเติบโต 17% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ประโยชน์จากภาพใหญ่ของบาทที่อ่อนค่า อีกทั้งเข้าสู่ช่วง high season ไตรมาส 2-3 รวมทั้งต้นทุนมีผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรน้อยกว่าเนื้อสัตว์บก
- STEC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 30 บาท เชื่อราคาหุ้นรับรู้ข่าวร้ายจากความล่าช้ารถไฟทางคู่ 5 โครงการจนถึง 4Q17 ไปแล้ว และไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าที่ล่าช้าของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่มากเกินไป เพราะ STEC ได้รับมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้เชื่อว่าราคาเหล็กจะปรับตัวลงเพราะสหรัฐมีแนวโน้มใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานน้อยลงและไทยมีการเปิดประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานล่าช้า