"ทวิช"ร้อง ตลท.ค้านมติบอร์ดฉุกเฉิน ให้"หมอวิชัย"เรียกประชุมใหม่ภายใน 14 วัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday April 1, 2017 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ (IFEC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ตนเอง พร้อมด้วยกรรมการอื่นของ IFEC อีก 4 ราย ได้ยื่นคัดค้านการที่บริษัทฯ มีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท (ฉุกเฉิน) ว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่มีหนังสือถึงคณะกรรมการบริษัทว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทที่ผ่านมาทั้งสองครั้งคือ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 และวันที่ 29 มีนาคม 2560 ว่า การแจ้งมติรับทราบ โดยการแจ้งของนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไม่เป็นไปตาม มาตรา 89/26 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และไม่มีผลตามกฎหมาย กล่าวคือ

มาตรา 89/26 กำหนดว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้น บุคคลที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ต้องเป็นผู้ถือหุ้นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่คณะกรรมการกำหนด และจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะมีสิทธิออกเสียงคะแนนให้เป็นไปตามที่ปรากฏในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันเดียวกัน ทั้งนี้สิทธิของบุคคลดังกล่าวย่อมไม่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันประชุมผู้ถือหุ้น จะมีข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว วันที่กำหนดโดยคณะกรรมการข้างต้น ต้องเป็นวันที่ล่วงหน้าก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นไม่เกินสองเดือน แต่ต้องไม่ก่อนวันที่คณะกรรมการอนุมัติให้มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น และเมื่อคณะกรรมการกำหนดวันเพื่อกำหนดผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุมแล้วจะเปลี่ยนแปลงมิได้

ดังนั้น การที่บริษัทโดยประธานกรรมการจัดการให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยมีจำนวนกรรมการเข้าประชุมที่ไม่เป็นไปตาม มาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน กล่าวคือ มีจำนวนกรรมการมาประชุมน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด ซึ่งไม่ครบเป็นองค์ประชุม และการประชุมควรยุติหรือเลื่อนออกไป แต่ประธานกรรมการอาศัยอำนาจของตน ดำเนินการประชุมต่อในวาระต่าง ๆ และยังมีหนังสือแจ้ง มติการประชุมคณะกรรมการทั้งสองครั้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบ ก่อให้เกิดความสับสนและกระทบสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่ประธานได้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วัน Record date และวันปิดสมุดทะเบียนหุ้น ให้กรรมการที่เหลืออีก 3 ท่านรับทราบ โดยที่ข้อกฎหมายกำหนดว่า จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการก่อน และเมื่อกำหนดวันแล้ว จะเปลี่ยนแปลงในภายหลังมิได้

นายทวิช กล่าวว่า ตนเองได้ทำหนังสือถึงนายแพทย์ วิชัย ในฐานะประธานกรรมการ และผู้มีอำนาจเปิดเผยสารสนเทศของ IFEC ให้บริษัทฯ รีบดำเนินการแจ้งแก้ไขข้อมูลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้นักลงทุนทราบก่อนโดยเร็ว และภายในกรอบเวลาที่สำนักงาน กลต. กำหนด พร้อมกันนี้ตนเองและรองศาตราจารย์ประนอมเป็นตัวแทนของกรรมการอีก 3 ราย ซึ่งเป็นกรรมการเสียงข้างมาก ได้อาศัยสิทธิตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน ทำหนังสือเรียกร้องให้นายแพทย์วิชัย ประธานกรรมการ เรียกประชุมกรรมการบริษัทภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน โดยมีวาระสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ แนวทางการแก้ไขปัญหาหนิ้สิน (ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้) แนวทางแก้ไขการส่งงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด แนวทางแก้ไขปัญหาและการปลดเครื่อง SP หลักทรัพย์ของบริษัท และพิจารณาการกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วัน Record date และวันปิดสมุดทะเบียนหุ้น โดยจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา 112, 113 และ 114 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน ที่กำหนดให้บริษัทต้องจัดทำงบดุล และบัญชีกำไรขาดทุน ที่ผ่านการตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น รวมถึงคณะกรรมการต้องจัดส่งเอกสาร ได้แก่ สำเนางบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนพร้อมทั้งรายงานผู้สอบบัญชี รายงานประจำปีของคณะกรรมการ พร้อมกับหนังสือนัดประชุมสามัญประจำปี

นายทวิช กล่าวว่า เนื่องจากข้อกำหนดตามกฎหมายที่บริษัทในฐานะบริษัทมหาชน และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ จึงต้องพิจารณาโดยรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งกับกฎหมายฉบับหนึ่งฉบับใด ตนเองพร้อมด้วยกรรมการเสียงข้างมากจะต้องสอบถามนายแพทย์วิชัย ในผู้บริหารของ IFEC ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ว่า ความคืบหน้าของงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจะแล้วเสร็จเมื่อไร เพื่อจะได้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วัน Record date และวันปิดสมุดทะเบียนหุ้น ที่แน่นอนต่อไป

นายทวิช กล่าวว่า ตนเองพร้อมด้วยกรรมการเสียงข้างมากอีก 4 ราย พร้อมให้ความร่วมมือกับนายแพทย์วิชัย และกรรมการอื่นอีก 3 รายของบริษัท ในการร่วมกันพิจารณาหาทางแก้ไขและอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของ IFEC ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นมาก่อนที่ตนเองจะเป็นกรรมการก็ตาม แต่พวกตนก็ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะกรรมการของบริษัท ที่จะต้องพิจารณาและตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถฟื้นฟูกิจการกลับมาเป็นบริษัทที่มีการดำเนินการเป็นปกติได้โดยเร็ว โดยขอความร่วมมือจากนายแพทย์วิชัยให้ความร่วมมือในการเปิดเผยข้อมูลในอดีตให้กรรมการทุกคนทราบด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ