บล.ทรีนีตี้ คาด SET Index เม.ย.แกว่งแคบ-วอลุ่มบางเจอวันหยุดเพียบ แนะหุ้นรับผลดี EEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 3, 2017 10:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยช่วงเดือน เม.ย.นี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,600 จุด ด้วยความผันผวนในระดับต่ำและมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว

ปัจจัยบวกจากกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง จากกรณีความกังวลในการสนับสนุนนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐของพรรครีพับรีกัน ประกอบกับตลาดได้รับรู้กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไปแล้ว

นอกจากนี้การที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้การบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงต่อไป เป็นผลบวกต่อกลุ่ม พลังงาน ปิโตรเคมี ธุรกิจการเกษตร ส่วนราคาน้ำมันดิบมีโอกาสลงจำกัดแล้ว เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์/บาเรล และคาดการณ์ว่าที่ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในเดือน พ.ค.นี้จะมีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไป

ส่วนปัจจัยลบ คือ มูลค่าของตลาดหุ้นไทย (Valuation) ที่อยู่ในระดับสูง เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่อื่นๆ ดังนั้น กระแสเงินที่ไหลเข้าไทยจะไม่มากโดยเปรียบเทียบ ขณะที่การลงทุนภาครัฐหลายโครงการถูกเลื่อนออกไป การบริโภคภายในประเทศยังคงชะลอตัว โดยในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ได้มีการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงเล็กน้อย

นอกจากนี้ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ยังต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ล่าสุดคะแนนนิยมของนางมารีน เลอ เปน ซึ่งเป็นผู้สมัครฝ่ายขวาจัดที่มีจุดยืนในการนำฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป ยังคงสูสีกับนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ทำให้ประเมินว่าการเลือกตั้งรอบแรกนี้จะยังไม่ได้ผู้ชนะที่ได้คะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ จนต้องมีการเลือกตั้งรอบที่ 2 ในวันที่ 7 พฤษภาคม แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่า นายเอมมานูเอล มาครอง มีโอกาสคว้าชัยชนะได้ เนื่องจากจะได้คะแนนของผู้สมัครที่ตกรอบแรกมาครอง

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้ แนะนำซื้อเมื่อดัชนีลงมาระดับ 1,550 จุด และ ขายเมื่อดัชนีแตะ 1,600 จุด โดยควรพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นไม่มาก ผสมผสานกับหุ้นที่มีธีมการลงทุนน่าสนใจ คือ หุ้นในกลุ่มโภคภัณฑ์ ได้แก่ PTTEP, STA หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่มีสเปรดอยู่ในช่วงขาขึ้น ได้แก่ VNT, AJ และ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ AMATA, ROJNA, WHA


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ