นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) กล่าวว่า ปัจจัยในประเทศวันนี้ยังมีน้ำหนักในทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะการลงทุนและงานภาครัฐฯที่เดินหน้าต่อ และในวันนี้นายกรัฐมนตรีของไทยจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น และมีการเข้ามาเก็งงบการเงินไตรมาส 1 กันแล้ว
ดังนั้น ด้วยปัจจัยในประเทศที่ชี้นำตลาดหุ้นไทยยังเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในวันนี้อยู่ต่อไป เพียงแต่แรงซื้อจะลดลงไปบ้างจากการที่ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้
ประเมินทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ คืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจลดกำลังการผลิตต่อไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะทราบผลอย่างเป็นทางการในการประชุมเดือน พ.ค.อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯและผู้นำจีนเตรียมหารือทางการค้าในวันพรุ่งนี้ (6-7 เม.ย.) จะมีนัยต่อตลาดหุ้นและการค้าระหว่างประเทศ บวกกับวันศุกร์นี้สหรัฐจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงาน ส่งผลให้แต่ละตลาดปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เราประเมินต่อว่าสภาวะแบบนี้จะกินเวลาไปจนถึงวันสุดท้ายของสัปดาห์เลยทีเดียว
ส่วนการเจรจาการค้าระหว่าง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา คาดจะมี 2 ประเด็นสำคัญที่จะหารือกัน คือ ปัญหาของเกาหลีเหนือ และการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยเฉพาะในเรื่องการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯต่อจีน ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ มีการออกคำสั่งประธานาธิบดี 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องการการค้าระหว่างประเทศและการตอบโต้ทางการค้า ซึ่งหมายความว่า สหรัฐฯน่าจะพร้อมที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับจีน หากการเจรจาไม่เป็นผลตามที่สหรัฐฯต้องการ จึงเป็นตัวแปรที่ทำให้ตลาดหุ้นต้องรอดูผลก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรต่อไป
"กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำให้ “ถือ" สำหรับการเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นคงต้องเป็นการเลือกซื้อรายตัว (selective buy) หุ้นกลุ่มเด่นๆ จะยังเป็นหุ้นในกลุ่ม Domestic Play หรือหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และหุ้นที่มีการเก็งงบ 1Q-60 ที่จะออกมาดี ทั้งนี้ หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น KBANK , PTTEP , CPALL , UNIQ , SIRI , WHA"