น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานสินเชื่อเดือน ก.พ.โต 3.9% อานิสงส์ให้กู้หมุนเวียนของธุรกิจเกี่ยวเนื่องส่งออกโตดีสุด ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจเดือน มี.ค.ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ 52.6 สูงสุดในรอบ 2 ปีได้อานิสงส์จากภาคอุตสาหกรรมส่งออก
ประกอบกับราคาน้ำมันปรับขึ้นยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศสนับสนุนให้ขยายเวลาการลดกำลังการผลิตออกไป และ Foreign เป็น Net Buy ตั้งแต่เดือนมี.ค.ราว 4.9 พันล้านบาท รวมทั้งการที่เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 เดือนล่าสุด 34.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนปัจจัยกดดันมาจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกคำสั่งพิเศษ 2 ฉบับเพื่อยุติการขาดดุลการค้า 50,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนจาก 16 ประเทศทั้งที่อยู่ในทวีปเอเชีย ยุโรปตะวันออก อาเซียน รวมทั้งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่ วันที่ 5 เม.ย.คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 14-15 มี.ค. และในวันเดียวกันรองนายกรัฐมนตรี สมคิดเตรียมเสนอ 5 โครงการนำร่อง EEC เข้าบอร์ดชุดใหญ่ วันที่ 6-7 เม.ย. การประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้า และเกาหลีเหนือ และในวันที่ 7 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานนโยบายการเงิน
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตามแรงกดดันตามสัญญาณเทคนิคที่เข้าใกล้โซนแนวต้านสำคัญ 1,585-1,600 จุด รวมถึงเดือนเม.ย.มีช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ส่งผลให้ภาวะตลาดไม่คึกคักและมีความผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะซิกแซกขาขึ้น (มีสลับพักตัว) เพื่อขึ้นทดสอบ 1,585-1,600 จุด
ทั้งนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ในกลุ่มกลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล BANPU ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% สัปดาห์ก่อนล่าสุดอยู่ที่ 89.50 ดอลลาร์/ตัน และแนวโน้มกำไรปี 60 จะเติบโตสูงจากปีก่อน
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า การที่ US Dollar Index กลับขึ้นมายืนเหนือ 100 จุด หลังอังกฤษประกาศเริ่ม Brexit ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่ากดดันราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีการเกิดเหตุวินาศกรรมในรัสเซียเป็นบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่เงินยังไม่ไหลออกจากดอลลาร์ เพราะนักลงทุนเชื่อมั่นว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯยังเป็นประเด็นสำคัญที่คาดว่ายังไม่ถูกรับรู้เข้าไปในราคาทองคำ ทำให้ราคาที่แกว่งอยู่ระหว่าง 1,240–1,260 ดอลลาร์ ให้ภาพที่เป็นบวกต่อการปรับขึ้นต่อในระยะถัดไปตามแนวโน้มขาขึ้นเดิม ส่วนเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง แต่อาจปรับการเคลื่อนไหวมาอยู่ในรูป sideway down ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาทองคำในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ แนะนำให้เล่นรอบในกรอบ sideway ระหว่าง 1,240–1,260 ดอลลาร์ โดยเน้นถือสถานะ long เมื่อราคาอ่อนตัวเพื่อลุ้นการ breakout ขาขึ้น