หุ้น TPIPP ปิดเทรดช่วงที่ 6.90 บาท ลดลง 0.10 บาท (-1.43%) จากราคาขาย IPO ที่ 7.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,077.88 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.05 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.75 บาท
รายการบิ๊กล็อตหุ้น TPIPP 1 รายการ จำนวน 430,700 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3.01 ล้านบาท และยังพบบิ๊กล็อต TPIPP-F 1 รายการ จำนวน 97 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 679 ล้านบาท โดยทั้งสองรายการเทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 7.00 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเหมาะสมของ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ที่ 7.20 บาท (ใช้วิธี DCF โดยอิงสมมติฐาน WACC 6.4% และ Terminal Growth 0%) โดยมองบริษัทอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะผลักดันให้กำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ตั้งแต่ปีหน้า ขณะที่บริษัทมี upside จากการขยายการลงทุนเพิ่มเติมได้เนื่องจากมีกระแสเงินสดค่อนข้างมั่นคงและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งหลังเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์
แนวโน้มกำไรของ TPIPP จะอยู่ในช่วงเติบโตอย่างต่อเนื่องใน 1-3 ปีข้างหน้าจากการขยายกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะโรง RDF 100 MW ที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง โดยคาดกำไรปีนี้ของ TPIPP จะสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 2,662 ล้านบาท (+ 45.9% YoY) เพิ่มขึ้นจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่ในปีหน้าคาดผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้เกินกว่าเท่าตัวที่ระดับ 6,564 ล้านบาท (+146.6% YoY) เพิ่มขึ้นโดดเด่นจากการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโครงการใหม่ 3 โครงการ (RDF 100 MW, Coal 150 MW และ Coal + RDF 70 MW)ที่คาดจะ COD ได้ในไตรมาส 4/60
ทั้งนี้ มอง TPIPP มีความสามารถในการแข่งขันที่สูงจากในด้านวัตถุดิบความร้อนทิ้งจากโรงปูนที่ผู้ประกอบการรายอื่นไม่มี ส่งผลให้ในแง่ต้นทุนเฉลี่ยของโรงไฟฟ้า RDF ของบริษัทจะต่ำกว่าเนื่องจากสามารถใช้ความร้อนทิ้งเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าได้เป็นสัดส่วนถึง 25% (ความร้อนทิ้งมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำเนื่องจากเป็นของเหลือจากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์) ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ Adder ส่วนเพิ่ม 3.5 บาท/หน่วย เช่นเดียวกันกับผู้ผลิตรายอื่น ทำให้ในส่วนของกำไรต่อ MW จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ TPIPP ยังมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าอื่นที่ใช้พลังงานความร้อนทิ้งและถ่านหินเพื่อขายให้กับโรงผลิตปูนซีเมนต์ของ TPIPL เพื่อสร้างการเติบโตและโรงไฟฟ้าถ่านหินผสม RDF ที่เป็นโรงงานสำรองผลิตไฟในกรณีที่โรงไฟฟ้า RDF อื่นหยุดการดำเนินงานกะทันหันทำให้ ทำให้สามารถรับรู้ประโยชน์ของผลบวก Adder ค่าไฟตามสัญญา PPA ได้เต็มที่ตลอด 7 ปี
TPIPP เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่ COD แล้วจำนวนทั้งสิ้น 150 MW โดยแบ่งออกเป็น 1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งซึ่งใช้วัตถุดิบเป็นความร้อนทิ้งจากโรงปูนมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้กลับไปขายที่โรงปูน กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 70 MW 2) โรงไฟฟ้าขยะ RDF ขนาดรวม 80 MW ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตจาก 1) โรงไฟฟ้าขยะ RDF 100 MW (รวมกับส่วนพลังงานความร้อนทิ้งเดิม 30 MW) 2) โรงไฟฟ้าถ่านหิน150 MW 3) โรงไฟฟ้าถ่านหินผสม - RDF 70 MW ส่งผลให้กำลังการผลิตของ TPIPP คาดว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 440 MW ในปลายปีนี้ได้