นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) กล่าวว่า ไม่ได้กังวลกับราคาหุ้น TPIPP ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ระดับ 7 บาท/หุ้น โดยมองว่าการปรับตัวขึ้นและลงของราคาหุ้นนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่บริษัทมั่นใจกับการเติบโตในอนาคตหลังจากนำเงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO ไปใช้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายโรงงาน ของ TPIPP กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจากโรงไฟฟ้าอีก 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 290 เมกะวัตต์จะสามารถจ่ายไฟฟ้าผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 440 เมกะวัตต์ โดยเชื่อว่าการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) สำหรับโรงไฟฟ้าขยะจะดำเนินการได้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้สามารถเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 90 เมกะวัตต์ได้ทันตามกำหนดเวลาและสามารถ COD ในไตรมาส 4/60 นี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมองหาการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยยังต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐฯว่าจะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมเมื่อใด โดยบริษัทจะเน้นในโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะเป็นหลัก ซึ่งให้ผลตอบแทนดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ปิดโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอื่น ๆ โดยบริษัทจะพิจารณาจากผลตอบแทน และความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งหากมีความเหมาะสมก็มีความพร้อมที่จะเข้ายื่นเสนอราคาในทุก ๆ โครงการ
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ TPIPP กล่าวว่า จากการเปิดซื้อขายหุ้น TPIPP วันนี่แม้ว่าราคาจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคา IPO แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าระยะยาวจะได้รับผลการตอบรับที่ดี เนื่องจากกิจการโรงไฟ้ฟ้า เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุปโภค-บริโภค ที่สามารถขายได้ทันทีเมื่อก่อสร้างโรงงานและเริ่มเดินเครื่องผลิต และด้วยแนวทางของบริษัทคือการผลิตไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาขยะในชุมชน และปัญหาโลกร้อนด้วย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ TPPPL กล่าวว่า หุ้น TPIPP เป็นหุ้นสามัญที่มีการระดมทุนขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ที่มีมูลค่าระดมทุนสูงถึง 17,500 ล้านบาท และหากเทียบราคากับผลการดำเนินงานในปัจจุบันอาจจะถือว่ามีระดับ P/E สูงถึง 20 เท่า แต่อย่างไรก็ตามหากมองไปถึงการเติบโตในอนาคต ที่ในปี 61 จะมีการเติบโตได้เป็นเท่าตัวจากปัจจุบัน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะส่งผลให้ระดับ P/E ลดลงมาครึ่งหนึ่ง หรือเหลือเพียง 9.8 เท่า
"พลังงานปกติอยู่แล้ว อย่าตื่นตระหนก เพราะไม่ว่าเศรษฐกจิดีหรือไม่ดีประชาชนก็ต้องใช้อยู่แล้ว และตอนขายหุ้นความต้องการของสถาบันล้นไปถึง 7 เท่า ซึ่งหลังจากที่บริษัทมีสภาพคล่องพร้อมก็สามารถขยายงานได้ โดยในปีหน้าผลประกอบการมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นเท่าตัว ซึ่งจะทำให้ P/E ลดลงไปจำนวนมาก และเดี๋ยวราคาหุ้นก็จะสะท้อนไปตามเอง"นายไพบูลย์ กล่าว
อนึ่ง TPIPP เสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 2,500 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7 บาท และเข้าซื้อขายใน SET ในวันนี้เป็นวันแรก โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 6.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 3.57% จากราคาขาย IPO โดยระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นทำระดับสูงสุดได้ที่ 7.05 บาท และปิดภาคเช้าที่ระดับ 6.90 บาท