นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานการขายและการตลาด บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ SINGER จำนวน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 7 รุ่นใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงฤดูร้อน แบ่งเป็น เครื่องปรับอากาศ ขนาด 12500 BTU และ 18600 BTU ,ตู้เย็น จำนวน 4 รุ่น และเครื่องซักผ้า โดยคาดหวังจะมียอดขายราว 10,000 ชิ้นต่อผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ ได้จัดแคมเปญพิเศษ ให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายและอาชีพ ให้สามารถเป็นเจ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่าย ๆ ด้วยการส่งสินค้าตรงถึงบ้าน และผ่อนสบาย ๆ เช่น ตู้เย็นผ่อนเพียงวันละ 22 บาท ,เครื่องปรับอากาศผ่อนวันละ 33 บาท และเครื่องซักผ้าผ่อนวันละ 30 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสินค้าในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์อื่น ๆ เช่น ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือหยอดเหรียญ ,ตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ,ตู้แช่ ,ตู้แช่แข็ง ,เครื่องทำน้ำหวานเกล็ดหิมะ เป็นต้น มานำเสนอแก่กลุ่มเป้าหมายด้วยเงื่อนไขพิเศษมากมาย รวมทั้งยังมีการวางแผนและอยู่ในระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่อื่น ๆ อีกหลายรายการ เพื่อนำออกมาจำหน่ายให้กับลูกค้าภายในปีนี้อีกด้วย
บริษัทยังมองโอกาสจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน ให้ครอบคลุมทุกชิ้น โดยปัจจุบันก็อยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญากับพันธมิตรในประเทศไทย ภายในเดือนพ.ค.60 เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และเจรจากับพันธมิตรญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดเครื่องเสียง คาดจะได้เห็นความชัดเจนได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายกลุ่มสินค้ายานยนต์ คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ภายใน 1-2 เดือนจากนี้
ขณะที่บริษัทก็ได้เพิ่มตัวแทนจำหน่าย เพื่อเข้ามารองรับการให้บริการมากขึ้น โดยตั้งเป้าปีนี้จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเป็น 20,000 คน และปี 61 จะเพิ่มเป็น 40,000 คน จากปัจจุบันอยู่ที่ 13,000 คน ประกอบกับปีนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มสาขาใหญ่ สาขาย่อย และหน่วยขาย รวมเป็น 800 กว่าสาขา จากปัจจุบันมีสาขาใหญ่จำนวน 180 สาขา และสาขาย่อย รวมหน่วยขาย อยู่ที่ 400 สาขา
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้กว่า 30% จากปีก่อนทำได้ 2,545 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเปลี่ยนรูปแบบการชำระค่าสินค้าให้ผ่านระบบธนาคาร หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีจำนวนกว่า 18,000 จุด ,การเพิ่มเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย ,การเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ รวมถึงการผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มบมจ.เจมาร์ท (JMART) ในการขยายไลน์สินค้าโทรศัพท์มือถือ และกล้องถ่ายรูป อีกทั้งการเพิ่มจุดชำระเงินผ่านตู้เติมเงินของ SINGER อีกกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีก่อน ที่อยู่ระดับ 37.88% และอัตรากำไรสุทธิก็จะดีกว่า 4.71% ในปีก่อน เป็นไปตามยอดขายที่เติบโต ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้คาดจะมีสัดส่วนที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7% จาก 13% ในปีก่อน จากการเพิ่มทีมติดตามหนี้มากขึ้น โดยจะเพิ่มเป็น 200 คน และการนำระบบการจัดเก็บหนี้แบบใหม่ คือ ระบบ Direct Payment System (DPS) เพื่อการบริหารจัดการหนี้ของลูกค้า เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้า นำไปสู่การชำระหนี้ที่ตรงต่อเวลา โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าที่เข้าสู่ระบบการจัดเก็บหนี้ดังกล่าวรวม 60,000-70,000 บัญชี จากฐานลูกค้าทั้งหมด 180,000 บัญชี
ส่วนงบลงทุนปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบหลังบ้าน หรือระบบไอทีใหม่ทั้งหมด รองรับการชำระสินค้ารูปแบบใหม่
"ปีนี้คาดรายได้จะเติบโตกว่า 30% จากยอดขายใหม่เป็นหลัก และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบการจ่ายเงินที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ก็ถือว่ามีการเติบโตกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และคาดว่าไตรมาส 2/60 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการขาย จากเป็นช่วงของไฮซีซั่น โดยมองภาพรวมกำลังซื้อภาคประชาชนที่ผ่านมา ยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ จากที่ภาครัฐ ยังมีการพยุง หรือช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย หรือลงทะเบียนคนจน เป็นต้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของ SINGER ก็ถือว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน โดยก็มีการช่วยเหลือในเรื่องของการผ่อนชำระค่าสินค้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของสินค้าได้"นายกิตติพงศ์ กล่าว