นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี (AEC) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาระดับมาร์เก็ตแชร์ให้ที่ระดับ 2.8% จากปีก่อนที่มีมาร์เก็ตแชร์ที่ 2.73% หรืออยู่อันดับที่ 15 โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร และเครื่องมือในการให้บริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น
บริษัทยังจะมีการขยายสาขาเพิ่มเพื่อรองรับตามแผนยุทธศาสตร์ 4 มุมเมือง โดยในปีนี้มีแผนขยายสาขาอีกไม่ต่ำกว่า 4 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ 14 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยล่าสุดได้เปิดสาขาที่จังหวัดนครราชสีมาถือเป็นการเปิดประตูสู่อีสาน ส่วนสาขาอื่น ๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการเปิดสาขาในพื้นที่ภาคตะวันออก
สำหรับธุรกิจด้านวาณิชธนกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนจะนำบริษัทผู้ประกอบทางธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก อาทิ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ ธุรกิจด้านสุขภาพ และธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้นประมาณ 4-6 บริษัทภายในปีนี้ และยังมีดีลการซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) ประมาณ 2 ดีล หรือแม้แต่การเข้าไปเป็นปรึกษาการเงินอิสระ (IFA)
บริษัทเตรียมขยายฐานกลุ่มนักลงทุนสถาบันมากขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเสริมฐานลูกค้าของบริษัท โดยตั้งเป้ากลุ่มนักลงทุนเบื้องต้นดังกล่าวประมาณ 4-5 ราย แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็ยังคงขยายฐานกลุ่มนักลงทุนทั่วไปเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นการรองรับระบบการเทรดใหม่ ๆ อาทิ Block Trade ซึ่งเป็นวิธีการซื้อขายแบบจับคู่ซื้อขาย Single Stock Futures (SSF) ที่ราคาและจำนวนสัญญาที่ตกลงกันไว้ เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอ ซึ่งต้องยอมรับว่า SSF เป็นตัวช่วยในการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนได้ ในขณะเดียวกัน Block Trade ใช้เงินน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ปัจจุบันมีนักลงทุนเริ่มหันมาเล่น Block Trade มากขึ้น
ดังนั้น จากเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ จึงทำให้ทางบริษัทเร่งพัฒนาระบบ รวมถึงอบรมให้ความรู้พนักงานเจ้าหน้าที่การตลาด ให้เข้าถึงระบบการลงทุนในรูปแบบดังกล่าว และสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในสภาวะตลาดที่เป็นขาขึ้นและขาลงได้ เพื่อให้ตอบโจทย์การลงทุนได้มากขึ้น