นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ เหมือนในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อที่สลับเข้ามาในหุ้น 2 กลุ่มหลักทั้งพลังงานและแบงก์ ทำให้คาดว่าหุ้นทั้งสองกลุ่มจะยังคงเป็นกลุ่มที่ช่วยประคองตลาดได้ต่อไปในวันนี้ จากราคาน้ำมันที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของกลุ่มแบงก์ที่มีแนวโน้มออกมาดี จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์
"วันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์น่าจะยังประคองได้อยู่ แต่คงไม่แนะนำให้ไล่ราคา เพราะเดี๋ยวตลาดก็จะหยุด คงต้องรอดูหลังจากนั้น อีกทั้งหุ้นทั้งสองกลุ่มก็ปรับขึ้นมาพอสมควรแล้ว คงเป็นลักษณะการต่อรองราคาหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว และคงจะมีการเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กตามประเด็นข่าวที่มีเข้ามาในแต่ละกลุ่มด้วย"นายคณฆัส กล่าว
พร้อมทั้งแนวรับบริเวณ 1,575 และ 1,571 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,587-1,590 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด (-0.03%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด (-0.24%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด (-0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 155.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 19.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.62 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.60) 1,582.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด (+0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 765.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 เม.ย.60) ปิดที่ 53.40 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย..60) ที่ 6.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.54/56 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนค่าจากวิตกสถานการณ์ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
- ตลท.เผยหุ้น IPO เข้าตลาด 9 บริษัท หนุน 4 เดือนแรกมาร์เก็ตแคปหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 9.39 หมื่นล้านบาท ประเมินครึ่งปีหลังยังคึกคัก หวังไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์และกองรีทที่มีสินทรัพย์ในต่างประเทศ เข้าจดทะเบียน ด้านเมย์แบงก์ฯ มองหุ้นไอพีโอเคลื่อนไหวไม่หวือหวา เหตุมีหุ้นเข้าระดมทุนจำนวนมาก แนะนักลงทุนถือยาวมากขึ้น
- คสช.เตรียมใช้มาตรา 44 ส่งเสริมตั้งมหาวิทยาลัยในอีอีซี หวังสร้างความชื่อมั่นและเร่งนักลงทุนตัดสินใจ ด้านครม.แก้ร่างกฎหมายใหม่ เพิ่มอำนาจบอร์ดให้สั่งการรวดเร็ว หวังแข่งขันเพื่อนบ้าน ด้านครม.เปลี่ยนชื่อร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เป็นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมเพิ่มเติมพื้นที่อื่นนอกจาก 3 จังหวัดเดิมได้ ลงมติจัดตั้ง "ซูเปอร์บอร์ด" มี "พล.อ.ประยุทธ์" นั่งประธาน ปลดล็อกการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก เอื้อการแก้ระเบียบ-กฎหมายส่งเสริมการลงทุน ขณะบอร์ดอีอีซี อนุมัติงบกว่า 100 ล้านศึกษาไฮสปีดเทรนด์เชื่อม 3 สนามบิน คาดเปิดประมูลในปีนี้
- ครม.เห็นชอบให้จัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 60 หรืองบกลาง ในรายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ วงเงิน 6,281.52 ล้านบาท ให้กับ 9 หน่วยงาน ดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญรวม 33 โครงการ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าก้าวสู่ประเทศไทยยุค 4.0 ได้ เช่น โครงการของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการครบวงจร โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ เป็นต้น
- ธนารักษ์เตรียมปิดจ็อบโครงการพัฒนาที่ดินหมอชิต มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท หลังอัยการสูงสุดตรวจร่างเรียบร้อย ลุยปั้นศูนย์การค้าเต็มรูปแบบ คาดเสนอครม.อนุมัติหลังสงกรานต์ และเซ็นสัญญาได้ภายในพ.ค.นี้
- SEAFCO (เออีซี) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14.10 บาท หลังมองปี 60-61 คาดว่าจะมีกำไรโตเฉลี่ยปีละ32.9% จากการรับรู้ Backlog ในมือกว่า 1.5 พันล้านบาท อีกทั้งแนวโน้มการรับงานใหม่ยังสดใสอย่างมากด้วยแรงหนุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งสีส้ม,ชมพู,เหลือง ขณะที่ยังมี Upside 18.5%
- TOP (ไอร่า) ราคาเป้าหมาย 89 บาท ผลงาน Q1/60 ยังคงแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นสูงที่ 6-7 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลในช่วงท่องเที่ยวและฤดูหนาวส่งผลให้ความต้องการดีเซลและน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น ล่าสุดค่าการกลั่นสิงคโปร์สูงขึ้นมาที่ 6.0-7.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนต่างปิโตรเคมีทั้งพาราไซลีนและเบนซีน Q1/60 เพิ่มสูงขึ้นด้วย ขณะที่ตลาดจับตาโรงงาน Reliance ในอินเดียกำลังผลิตอะโรเมติกส์ 2.2 ล้านตัน/ปีเลื่อนเปิดไปเป็น Q2/60 อีกทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน
- EA (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 34 บาท เนื่องจากแนวโน้มกำไรเติบโตรอบใหม่จากอุปกรณ์กักเก็บพลังงาน คาดกำไรโตเฉลี่ย 33% ในปี 60-62 ด้วย ROE ที่สูงกว่า 30% แม้จะมีประเด็นความไม่แน่นอนที่ดิน ส.ป.ก.จบลงแล้ว แต่คาดว่าโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานจะมีความล่าช้าออกไปอีกราว 5-6 เดือน