ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,579.87 จุด ลดลง 9.63 จุด (-0.61%) มูลค่าการซื้อขาย 14,772.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดภาคเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,585.96 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,577.01 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลดลง และมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทุกคนต่างให้ความสนใจอย่างมากในตอนนี้ และเป็นปัจจัยกดดันในระยะสั้นต่อตลาดหุ้น
โดยจะเห็นว่าหลังจากเกิดสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือเกิดขึ้นแล้วนั้น เริ่มเห็นนักลงทุนทยอยเคลื่อนย้ายเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ทอง สกุลเงินเยน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ตลาดฯยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ซึ่งยังคงกดดันตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้น โดยแนวโน้มช่วงบ่ายนี้คาดว่าดัชนียังคงเคลื่อนไหวในแดนลบต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนยังวิตกกังวลกับสถานการณ์ที่ส่งผลต่อความไม่แน่นอน และแม้ว่าจีนจะประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 1/60 สูงกว่าตลาดคาดการณ์ ที่ 6.8% แต่ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการลงทุนในตลาดหุ้น
พร้อมให้แนวต้าน 1,590 จุด แนวรับ 1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPF มูลค่าการซื้อขาย 541.04 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง SCC มูลค่าการซื้อขาย 470.14 ล้านบาท ปิดที่ 542.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 468.87 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท ลดลง 0.20 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 468.43 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 458.74 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง 3.00 บาท