นายธีรพันธ์ เตชะศิริกุล รักษาการ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) คาดว่า ครึ่งหลังของเดือนเม.ย.นี้ รฟม.จะเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังผ่านความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ได้ส่งมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ขณะที่ยังรอความเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) จากนั้นคาดว่า รฟม.จะสามารถลงนามสัญญากับ กลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ได้ในช่วงปลาย เม.ย. หรือต้น พ.ค. นี้
ส่วนข้อเสนอพิเศษของกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ยังคงรวมอยู่ในสัญญาหลัก เพียงแต่ยังไม่มีการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว หากจะพิจารณาข้อเสนอก็จต้องขออนุมัติเหมือนตามขั้นตอนการอนุมัติสัญญาหลัก คือส่งเรื่องไปสคร.และ อสส. และ 2 หน่วยงานส่งให้กระทรวงคมนาคมก่อนส่งเรื่องไปให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ
ทั้งนี้ ข้อเสนอพิเศษ ผู้ลงทุนคือกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ที่เป็นผู้เสนอโครงการ ขณะที่ รฟม.จะเป็นผู้จัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และการเวนคืนที่ดิน โดยในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นส่วนต่อขยาย ระยะทางประมาณ 2.8 กม.แยกออกจากเส้นทางสายหลักที่สถานีศรีรัชเพื่อเชื่อมต่อสถานีแรกที่บริเวณอาคารอิแพ็คชาเลนเจอร์และสถานีที่สองบริเวณริมทะเลสาบในเมืองทองธานีมูลค่าลงทุนประมาณ 2.5 พันล้านบาท โดยบริษัทร่วมทุนจะได้รับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้าง 1,250 ล้านบาทจากบมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND)
ส่วนข้อเสนอพิเศษในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนั้น เป็นส่วนต่อขยาย ระยะทางประมาณ 2.6 กม.มีมูลค่าลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท มีเส้นทางไปตามถนนรัชดาภิเษกไปสิ้นสุดบริเวณแยกรัชโยธินซึ่งจะเชื่อต่อกับสถานี N10 (บริเวณปากซอยพหลโยธิน24) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
อนึ่ง กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ถือหุ้น 75% บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) 1ถือหุ้น 15% และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือ 10%