SUPER บวก 4.38% วอลุ่มหนาแน่น หลังเตรียมตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ปีนี้ รองรับแผนขยายธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 19, 2017 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น SUPER ราคาวิ่งขึ้น 4.38% มาอยู่ที่ 1.43 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 446.45 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.59 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.37 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.44 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.36 บาท

บ่ายนี้นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) โดยได้แต่งตั้งธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และคาดว่าจะสามารถยื่นขออนุมัติจัดตั้งกองทุนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) เร็ว ๆ นี้ และเสนอขายกองทุนได้ภายในปีนี้ เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจ ทั้งนี้ เบื้องต้นจะใช้ทรัพย์สินในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ นำร่องขายผ่านกองทุนฯ โดยมีขนาดกำลังการผลิตเบื้องต้น 100-120 เมกะวัตต์ มีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ไปขยายการลงทุนในอนาคต ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำ บริษัท ซุปเปอร์ โซลาร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ด้วย

“ตอนนี้ผมทำทุกอย่างที่จะผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน รวมถึงการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น สำหรับการเซ็นสัญญาแต่งตั้งให้แบงก์กรุงเทพเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อจัดตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ฯ ถือเป็นใบเบิกทางสู่การรุกธุรกิจพลังงานทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบของ SUPER คาดว่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนในครึ่งหลังของปีนี้"นายจอมทรัพย์ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 60 SUPER ตั้งเป้าหมายรายได้ประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 3,802 ล้านบาท จากการขยายการลงทุนออกไปทุกรูปแบบ อาทิ การลงทุนร่วมกับพันธมิตรและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการเข้าร่วมประมูลงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรส่วนที่เหลือ และการเข้าลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ดังนั้น การขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปีนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มีกำลังการผลิตกว่า 700 เมกะวัตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ