นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เกียรติธนาขนส่ง (KIAT) เปิดเผยว่า บริษัทได้ก่อตั้งบริษัท เคจีพี จำกัด ขึ้นมาเพื่อให้บริการด้านโซลูชั่นด้านความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขับขี่ของผู้ขับขี่รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยีทันสมัย โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีจาก Guardian System ของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมทั้งแนะนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่ปลอดภัย หวังผลักดันให้รายได้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% ในปีนี้
"เคจีพี จะนำสินค้าเทคโนโลยีล่าสุด จาก Guardian System เข้ามาทำตลาดในประเทศ เพื่อเป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่บนท้องถนนในประเทศ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งในทุกภาคอุตสาหกรรม ก็น่าจะเป็นธุรกิจใหม่ที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯได้ในปีนี้ และคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทย่อย น่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 5-10% ของรายได้รวม"นายคีรินทร์ กล่าว
ด้านนายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคจีพี จำกัด กล่าวว่า จากการนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ของ Guardian System เข้ามาแนะนำให้กับผู้ประกอบการ และหลังจากทดลองใช้จริงกับรถขนส่งทุกคันของ KIAT เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะช่วยยกระดับมาตรฐานการขับขี่ปลอดภัยของรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งของประเทศ ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 1,500 ชุด และเพิ่มเป็น 5,000 ชุดในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจำหน่ายไปแล้วราว 400-500 ชุด โดยระบบดังกล่าวจะมีให้เลือกใช้บริการ 2 รูปแบบ คือ การซื้อระบบ และการใช้บริการระบบประจำแบบรายเดือน สัญญาเช่าระยะ 5 ปี
สำหรับระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ ประกอบด้วย กล้องจับสายตาของผู้ขับขี่ ,กล้องส่องถนนอินฟราเรท ,กล่องรับสัญญาณ ,มอเตอร์สั่นใต้ที่นั่งผู้ขับขี่ และกล้องประมวลผล โดยชุดอุปกรณ์ติดตั้งภายในห้องโดยสารของผู้ขับขี่นี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบคนขับ พร้อมส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่แบบ Real Time ซึ่งจะมีการตรวจสอบและประมวลผลตลอดเวลา ทันที่ที่ตรวจพบเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการละสายตา หรือการเหนื่อยล้า หรือการหลับในของผู้ขับขี่ ระบบจะส่งสัญญาณไปที่มอเตอร์ให้ทำการสั่นเตือนจากใต้ที่นั่งของคนขับ พร้อมส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่ใน
ขณะเดียวกัน ระบบก็จะส่งรายงานเหตุการณ์ไปยัง SafeGuard Center ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการของ Guardian System เพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ ก่อนส่งกลับมาให้ผู้ประกอบการที่ใช้ระบบดังกล่าว โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ จะใช้เวลาเพียง 2 นาที โดยที่ทีมงานบริหารการขนส่งของผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบรถบรรทุกทุกคัน ของบริษัทผ่านการเชื่อมต่อทาง Internet ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายคีรินทร์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 10% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 838.10 ล้านบาท โดยลูกค้าเดิมยังมีการต่อสัญญา รวมถึงก็อยู่ระหว่างเข้าประมูลงานขนส่งอย่างต่อเนื่อง คาดจะได้สามารถทยอยทราบผลได้ในไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ก็น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
ในปีนี้บริษัทจะมีการลงทุนซื้อรถหัวลากเข้ามาเพิ่มเติมอีก ราว 40 คัน คาดจะใช้เงินลงทุนจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีรถหัวลากอยู่ที่ 400 คัน และหางรากที่ 300 คัน ขณะที่ก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในกลุ่มอาเซียนในการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดกับธุรกิจหลักของบริษัท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีนี้ 1 ราย โดยแหล่งเงินทุนจะมากจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ราว 200-300 ล้านบาท
"ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้โต 10% จากลูกค้าเดิมที่ยังมีออเดอร์เข้ามา และการเข้าประมูลงานขนส่งอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทลูกที่เข้ามา ก็น่าจะส่งผลดีต่อรายได้รวม เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้"นายคีรินทร์ กล่าว
นอกจากนี้ หลังจากบริษัทยกเลิกการลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวลเนื่องจากติดปัญหาหลายด้านแล้ว แต่บริษัทยังคงมองโอกาสขยายธุรกิจไปยังพลังงานทดแทนทุกรูปแบบ โดยอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบของการลงทุน ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร หรือ อาจลงทุนเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับโอกาส และผลตอบแทนจากการลงทุน ที่บริษัทตั้งเป้าไว้มากกว่า 10% ขึ้นไป คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 61