นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทสามารถทำยอดขายไตรมาส 1/60 ได้ราว 1.3 หมื่นล้านบาท จากการเปิดขายโครงการใหม่ 12 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบของกลุ่มธุรกิจแวลู 10 โครงการ โดยเฉพาะ The Tree สุขุมวิท 71 มูลค่า 2.5 พันล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและมียอดจองที่ค่อนข้างสูงกว่า 70% และส่วนโครงการของกลุ่มธุรกิจพรีเมียม คือ The Reserve ทองหล่อ 2 มูลค่า 1.8 พันล้านบาท ก็มียอดจองสูงถึงราว 95%
ขณะที่บริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/60 จะสามารถทำยอดขายได้สูงกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากจะมีจำนวนโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดขายเพิ่มขึ้นเป็น 17 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยโครงการของกลุ่มธุรกิจแวลู เป็นแนวราบ 16 และ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ
"การเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นจากไตรมาสแรกจะช่วยสนับสนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้นตาม และยังมั่นใจว่ายอดขายของบริษัทในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 5.29 หมื่นล้านบาท"นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวว่า การพัฒนาโครงการของบริษัทในปีนี้จะเน้นจับกลุ่มตลาดลูกค้าระดับกลาง-บนมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ในช่วง 30,000-100,000 บาท/เดือน เนื่องจากบริษัทต้องการขยายฐานลูกค้าให้กระจายตัวมากขึ้น จากเดิมที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่างที่บริษัทเป็นผู้นำตลาดและมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังค่อยๆทยอยฟื้นตัวขึ้น ทำให้กำลังซื้อของลูกค้าในกลุ่มระดับกลาง-ล่างยังไม่กลับมาฟื้นตัวได้ในทันที และยังเผชิญกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทมองว่าในกลุ่มของลูกค้าระดับกลาง-บนยังมีกำลังซื้อที่อยู่ในระดับที่ดี และมีความสามารถในการกู้ที่ค่อนข้างสูง จึงมีการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 60 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะเติบโตได้ 5% จากการผลักดันซัพพลายและดีมานด์ที่มาจาปลายกปีก่อนที่ หลังผูประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอเปิดโครงการ และการที่แผนการลงทุนโครงข่ายรถไฟฟ้าของภาครัฐที่เดินหน้างานประมูล เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง