นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมงบลงทุนราว 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมขนาดใหญ่ในต่างประเทศ โดยขณะนี้สนใจการเข้าไปลงทุนพลังงานทดแทนดังกล่าวในจีน ฮ่องกง เวียดนาม และญี่ปุ่น เบื่องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของการลงทุนในจีนหรือฮ่องกง ภายในปีนี้ จำนวน 1 ดีล
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) คาดว่าจะสามารถเปิดขายหน่วยกองทุนได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยจะนำทรัพย์สินในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นำร่องขายเข้ากองทุนฯ ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 100-120 เมกะวัตต์ และคาดหวังว่าจะได้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 10,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้ไปขยายการลงทุนในอนาคต
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ที่ไม่ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือล็อตแรกในปีนี้ จำนวน 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอขายได้ในช่วงไตรมาส 2/60-ไตรมาส 3/60 และมีแผนจะออกหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออีกล็อตหนึ่งในช่วงปลายปีนี้ เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และรองรับการลงทุนของบริษัทฯ
นอกจากนี้ ยังมีแผนนำ บริษัท ซุปเปอร์ โซลาร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อีกด้วย
นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาที่ 9,000-10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,802 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ราว 800 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมทั้งสิ้น 809 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น พลังงานจากแสงอาทิตย์ในประเทศ 735.6 เมกะวัตต์ และในจีนจำนวน 30 เมกะวัตต์ รวมทั้งอยู่ระหว่างเตรียมสจ่ายไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกราว 26 เมกะวัตต์
ขณะที่พลังงานลม ปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาต จำนวน 695 เมกะวัตต์ ขึ้นอยู่กับทางหน่วยงานภาครัฐว่าจะมีความชัดเจนเมื่อใด และการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม กำลังผลิตรวม 17 เมกะวัตต์ในพื้นที่ จ.สระแก้ว และจ.เพชรบุรี ขณะนี้อยู่ในช่วงของการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าโรงไฟฟ้าขยะใน จ.สระแก้วจะสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน ธ.ค.60
"ปีนี้เราตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมรายได้พิเศษที่จะเกิดขึ้น โดยในปีนี้เราจะมีการลงทุนซื้อธุรกิจใหม่ ทั้งในฮ่องกง และจีน เพื่อสร้างความมั่นคง และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯในอนาคต"
ขณะที่การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ได้อนุมัติให้บริษัทนำเงินทุนสำรองและส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสมในส่วนของบริษัทฯ ที่มีอยู่ 762 ล้านบาททั้งหมด โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในเดือนนี้ เพื่อให้สามารถจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต แต่การจ่ายปันผลก็จะต้องมีการพิจารณาว่าในช่วงนั้นๆ บริษัทฯมีแผนการลงทุนอื่นๆ หรือไม่