นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้มองตลาดหุ้นดีขึ้น หลังจากที่ผู้สมัครอิสระเพื่อเข้าชิงประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอมมานูเอล มาคร็อง ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนให้ฝรั่งเศสยังคงอยู่ในสหภาพยุโรป มีคะแนนนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในรอบแรก โดยจะต้องติดตามการเลือกตั้งในรอบที่ 2 ส่งผลให้ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวก เนื่องจากคลายความกังวลว่าฝรั่งเศสจะออกจากสหภาพยุโรป
และ สัปดาห์นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีกำหนดการที่จะประกาศแผนปรับลดภาษี ซึ่งเป็นที่จับตามองของตลาด ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดที่นายทรัมป์กำลังดำเนินตามที่ตนเองได้หาเสียงไว้ นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ออกมาหลายตัวของสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ตัวเลขเดือน เม.ย.ออกมาดี ส่วนของสหรัฐฯ ที่ไม่ดีนัก
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของไทยนั้น ตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค.เติบโต 9.22% ออกมาเป็นบวกมาแล้ว 3-4 เดือน และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของธนาคารพาณิชย์ที่เติบโตทั้งจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าและจากไตรมาสที่แล้ว แม้ว่ามีตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารกรุงเทพและธนาคารกรุงไทยเพิ่มขึ้นมา แต่เป็นไปตามคาดการณ์ของทั้งสองธนาคารด้วยเป็นช่วงรอยต่อของการที่การส่งออกเพิ่งกลับมามีอัตราการเจริญเติบโตและโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เริ่มเกิดเป็นรูปธรรมจริง ซึ่งต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง ดังนั้น คาดว่า NPL จะค่อย ๆ ลดลง และ สินเชื่อธนาคารกลับมาขยายตัวเร่งขึ้น
ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ มองกรอบ SET Index น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,562-1,582 จุด
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ คือ เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และต้องติดตามปัจจัยที่จะมากระทบกับตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐ และเกาหลีเหนือที่ยังคงอยู่ เพียงแต่เรามองว่าไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นโจมตีกันจริงๆ เนื่องจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจะมากมายมหาศาล จึงคาดว่าน่าจะเป็นการขู่และบีบบังคับกันเพื่อนำไปสู่การต่อรองกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ต่อฝ่ายตนให้ได้มากที่สุดมากกว่า จึงทำให้จะมีข่าวเชิงลบเข้ามากดดันตลาดเรื่อย ๆ
บล.เอเชีย เวลท์ จึงแนะนำหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เป็นหุ้น Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 79.00 บาท
KKP มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และสินเชื่อที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจมาก โดยล่าสุดรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ 1.52 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% QoQ และ 37.7% YoY หนึ่งในการปรับตัวที่ดีขึ้นที่สำคัญ คือการกลับมาเติบโตของสินเชื่ออีกครั้งหนึ่งหลังจากที่หดตัวมา 3 ปีติดต่อกัน โดยสินเชื่อในไตรมาส 1/60 ขยายตัว 1.3% YTD หนุนโดยหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อองค์กรขนาดใหญ่ และสินเชื่อ Lombard ในระหว่างที่สินเชื่อกลุ่มเช่าซื้อยังหดตัวอยู่
บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่าแนวโน้มสินเชื่อของ KKP จะยังดำเนินต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธนาคารที่จะขยายสินเชื่อไปกลุ่มอื่น ๆ นอกเหนือจากกลุ่มเช่าซื้อมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ของสินเชื่อรายย่อยจะถูกผลักดันผ่านทางช่องทางใหม่ เช่น ตัวแทนขายตรง รวมถึงผ่านทางช่องทางเดิมหรือสาขาธนาคาร เราคาดสินเชื่อของธนาคารจะเติบโต 6% ในปีนี้ ฟื้นตัวจาก -3.5% ในปี 58 และ -0.7% ในปี 59
“เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 6.4% ในปี 60 และ 11.2% ในปี 61 นอกจากนี้ ประมาณการกำไรในปี 60 ของเราอาจมีอัพไซด์เพิ่มเติมหากระดับการตั้งสำรองฯ ของธนาคารต่ำกว่าที่เราคาด นอกจากนั้นแล้ว หุ้นดังกล่าวให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดีมาก โดยมีเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 59 ที่อัตรา 4.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนครึ่งปีที่ 5.6% หรือ 11.2% ต่อปี มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 เมษายน 2560 นี้" นายวรุตม์ กล่าว
ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ KKP ยังมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 81 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 100 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ KKP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 68.25 บาท แนวต้านที่ 72.25, 73.25, และ 75.00 บาท และแนวรับที่ 70.75, 69.75, และ 68.00 บาท