(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวเล็งปัจจัยบวกคาด"ทรัมป์"ประกาศมาตรการปฏิรูปภาษีพรุ่งนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 25, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว โดยมีปัจจัยบวกจากการที่คาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะประกาศมาตรการปฏิรูปภาษีในวันพรุ่งนี้ และนักลงทุนต่างชาติก็เข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ด้วย

แต่ตลาดก็มีแรงกดดันจากตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันก็อ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ด้วยทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก คาดว่าน่าจะตอบรับเรื่องจะประกาศมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,763.89 จุด พุ่งขึ้น 216.13 จุด (+1.05%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,983.82 จุด เพิ่มขึ้น 73.30 จุด (+1.24%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,374.15 จุด เพิ่มขึ้น 25.46 จุด (+1.08%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 3.32 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.64 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 65.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 9.03 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 11.02 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 เม.ย.60) 1,564.66 จุด ลดลง 5.36 จุด (-0.34%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 413.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 เม.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 เม.ย.60) ปิดที่ 49.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 เม.ย..60) ที่ 7.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.35 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 34.30-34.45 รอปัจจัยใหม่
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้นัดประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชน 26 เม.ย.เพื่อเตรียมข้อมูลการส่งคำตอบไปให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้อย่างเป็นทางการ ตามที่สหรัฐกำหนดให้ 13 ประเทศส่งคำชี้แจงเพื่อประกอบการจัดทำรายงานสาเหตุการ ขาดดุลการค้าตามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และจะมีการทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 18 พ.ค.
  • อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือน มี.ค. 2560 มียอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,772 ราย เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งมูลค่า 2.66 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 2%
  • ผลการประชุม กสทช.นัดพิเศษ วันที่ 24 เม.ย. 2560 มีมติให้จัดธุรกิจบริการแพร่ภาพและเสียงบนระบบอินเทอร์เน็ต หรือโอเวอร์ เดอะ ท็อป-โอทีที (Over-the-top) อยู่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยจะตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล มีวาระการทำงาน 1 ปี โดยตนจะทำหน้าที่เป็นประธานในคณะกรรมการ
  • ส่งออกเดือน มี.ค.กลับมาบวก 9.22% มูลค่าทะลุ 2 หมื่นล้านเหรียญฯ อีกครั้งในรอบ 29 เดือน ดันยอดรวมไตรมาสแรกโต 4.9% เกินดุลการค้า 4 พันล้านเหรียญ พาณิชย์คาดแนวโน้มเป็นขาขึ้น มั่นใจเป้า 5% ทำได้แน่
  • อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) อีก 3.70% หรือ 12.52 สตางค์ต่อหน่วย ในเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ว่า กรมได้ศึกษาผลกระทบการปรับขึ้นค่าเอฟทีที่มีต่อต้นทุนการผลิตสินค้าแล้ว พบว่าจะมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.0002-0.266% เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ITEL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 14 บาท แนวโน้มกำไร 1Q60 สดใส คาด +61% Q-Q, +60% Y-Y จากการรับรู้งานรับเหมาติดตั้งโครงข่ายที่มีอัตรากำไรสูง และเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้ให้เช่า Data Center เต็มพื้นที่ซึ่งเป็นรายได้ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดในพอร์ต ประเด็นการลงทุนสร้างเสาโทรคมฯเพื่อให้เช่าในพม่า ต้องรอข้อสรุปถึงความคุ้มค่า ยังไม่ได้รวมในประมาณการ
  • SCC (ไอร่า) เป้า 648 บาท คาดผลงาน 1Q/60 แนวโน้มเติบโตดีทั้ง qoq และ yoy ธุรกิจปิโตรเคมีได้รับประโยชน์จากกำลังการผลิตของ Chandra Asri ที่อินโดนีเซีย หลัง De-bottleneck เพิ่มขึ้นจาก 0.92 ล้านตัน เป็น 1.33 ล้านตันที่คาดการใช้กำลังการผลิตดีขึ้นตามลำดับ และการกลับมาผลิตปกติหลังซ่อมบำรุงโรง Cracker แห่ง 1 (ROC) 40 วันเมื่อ 4Q/59 ขณะที่ส่วนต่าง HDPE-Naptha และ PP-Naptha ดีเฉลี่ย 672USD/ตัน (ทรงตัว qoq แต่ลดลง 80USD/ตัน แต่ปริมาณขายดีขึ้น) และ 660USD/ตัน (ดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq) พร้อมคาดปี 60 กำไรสุทธิทำ New High ต่อเนื่อง
  • HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 12 บาท กำไร 1Q60 ออกมา 1,046 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ลดลง 20.7% Q-Q ตามฤดูกาลและไตรมาสก่อนมีช้อปช่วยชาติ แต่ยังโตดี 20.8% Y-Y จากสาขาใหม่และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น เพราะเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand แนวโน้มจะดีต่อใน 2Q60 และ 4Q60 ยังคาดกำไรปีนี้โต 13.3%
  • PTTGC (โกลเบล็ก) เป้า 77 บาท คาดกำไรปี 60 ที่ 2.68 หมื่นล้านบาท + 5%YoY(มีแนวโน้มปรับประมาณการเพิ่ม) ได้รับผลบวกธุรกิจอะโรเมติกส์ที่สเปรดดีขึ้นทั้ง PX และ BZ 31%YTD และ 24%YTD ตามลำดับ และธุรกิจโอเลฟินส์ราคา HDPE LDPE และ LLDPE ปรับตัวขึ้น 4%, 2%, 7% YTD ตามลำดับ และมี Upside จากใช้เงินราว 2.6 หมื่นล้านบาทซื้อบริษัทสายพลาสติกจาก PTT 6 บริษัท เริ่มรับโอน ต.ค.60 คาดช่วยเพิ่มกำไรราวปีละ 2.4 พันล้านบาท(ยังไม่ได้รวมในประมาณการ) ,เตรียมนำบริษัท GGC เข้าตลาดฯปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ