นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าปีนี้มีโอกาสที่สินเชื่อส่วนบุคคลจะเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายที่ 15% และมีจำนวนสมาชิกใหม่ไม่ต่ำกว่า 160,000 ราย เนื่องจากการเติบโตช่วงต้นปีทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าไตรมาส 2/60 จะเติบโตได้สูงกว่าไตรมาส 1/60 ที่เติบโต 18% เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นช่วงเทศกาลสงกรานต์และเปิดเทอม
"บริษัทคาดว่าสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้มีโอกาสทำได้สูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย หรือมีการเติบโตได้ราว 16% หลังจากแนวโน้มการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกและจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง"นางสาวสุดาพร กล่าว
นางสาวสุดาพร กล่าวว่า ไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของ KTC มีจำนวนลูกค้า 834,000 บัญชี และมีจำนวนพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 2.21 หมื่นล้านบาท ซึ่งในนี้บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต 15% หรือมีพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 2.01 หมื่นล้านบาท
ณ สิ้นปี 59 บริษัทมีพอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคล 818,068 บัญชี และ ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิ 2.01 หมื่นล้านบาท ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อบุคคลเหลือ 0.9% จาก 1% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดจำนวนสมาชิกคิดเป็น 6.8% ของอุตสาหกรรม
"ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อบุคคลขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมที่ 6.5% เพิ่มขึ้นจาก 5.7% ในปีที่ผ่านมา"นางสาวสุดาพร กล่าว
สำหรับไตรมาส 2/60 บริษัทจะใช้แผนกลยุทธ์ให้แตกต่างด้วย 4 กลยุทธ์หลัก เช่น ขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายวิชาชีพต่างๆ และ ขยายธุรกิจด้วยความระมัดระวังผ่านช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์,พัฒนาระบบสนับสนุนการขยายฐานสมาชิกสินเชื่อใหม่,จัดกิจกรรมการตลาดในวงกว้างและแบบเฉพาะเจาะจง และ รักษาและผูกสัมพันธ์กับฐานสมาชิกในระยะยาว
แคมเปญการตลาดไตรมาสนี้จะเน้นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าเพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตลอดจนสร้างประสบการณ์ที่ดี และ สร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกปัจจุบัน ได้แก่ แคมเปญเคลียร์หนี้เกลี้ยงที่จัดต่อเนื่องมา 5 ปี รวม 6 ครั้ง แคมเปญเที่ยวฟรี ตามใจฝัน เคทีซีจัดให้ และ แคมเปญ Half Price Promotion สมัครสมาชิกใหม่มอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงถึง 50%
นางสาวสุดาพร กล่าวว่า บริษัทคาดว่าสินเชื่อส่วนบุคคลของระบบในปีนี้จะเติบโต 3-4% เป็นภาวะซึมลง เพราะยังคงเห็นการชะลอตัวของการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่กลับมาฟื้นตัวดี จากภาวะเศซษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งบริษัทจะควบคุม NPL ในปีนี้ให้อยู่ในระดับ 0.9-1% จากสิ้นปี 59 อยู่ที่ 0.9% โดยไตรมาส 1/60 สามารถบริหารจัดการ NPL ได้ดีด้วยการบริหารเองทั้งหมด ได้แก่ ฝ่ายติดตามหนี้ และแผนกฟ้องร้อง
ส่วนยอดการปฎิเสธสินเชื่อที่ผ่านมาสูงถึง 70% และยอดการอนุมัติอยู่ที่ 30% ซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับนี้มา 5 ปีแล้วด้วยมาตรการที่เข้มงวดทำให้บริษัทควบคุม NPL ให้อยู่ในระดับต่ำ