AEC ยื่นไฟลิ่ง“เดอะคลีนิกค์"ต่อ ก.ล.ต.แล้วเตรียมเข้าซื้อขายในตลาด mai เร็วๆ นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 25, 2017 13:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี (AEC) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (TKC) เปิดเผยว่า TKC ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้หลังจากได้รับอนุมัติจากทาง ก.ล.ต.ในเร็วๆนี้

TKC เป็นผู้ให้บริการด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงามในหลายรูปแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้แก่ การให้บริการด้านผิวพรรณ ลดริ้วรอย รักษารูปร่าง และศัลยกรรม โดย สิ้นปี 2559 บริษัทมีคลินิกสาขาจำนวน 22 สาขา และคลินิกแฟรนไชส์อีก 3 สาขา และมีทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 80 ล้านบาท ภายใต้การบริหารงานของนายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ทั้งนี้ TKC มีบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในทุกระดับ อาทิ การให้บริการทำทรีทเมนต์เพื่อรักษาผิวหน้า ลดรอยแดง ลดรอยดำ การให้บริการเลเซอร์เพื่อยกกระชับ ปรับรูปหน้า การดูแลรูปร่างด้วยการกำจัดและสลายไขมัน การทำศัลยกรรมตกแต่ง เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีการจำหน่ายเวชสำอาง โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ อาทิเช่น Special Care, Clean & Prepare, Whitening Set, Sun Care และ Antioxidant เป็นต้น

กลุ่มเป้าหมายในการให้บริการจะเน้นการให้บริการลูกค้ากลุ่ม Medium High ถึง High End และจะมีการเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ซึ่งทางบริษัทจะมีการติดต่อส่งข่าวสารหรือโปรโมชั่นให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการส่งโปรโมชั่นแนบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าในวันเกิด เพื่อสร้างความประทับใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก ทางบริษัทยังมุ่งเน้นการประสานงานกับทางการตลาดของธนาคารต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าผ่านฐานข้อมูลลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารด้วยวิธีการต่างๆ

สำหรับผลการดำเนินงานของ TKC ในช่วง 2557 มีรายได้จากการให้บริการและค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการแล้ว จำนวน 438.45 ล้านบาท และมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิ จำนวน (37.36) ล้านบาท ส่วนในปี 2558 มีรายได้จากการให้บริการและค่ารักษาพยาบาล จำนวน 640.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 51.77 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้จากการให้บริการและค่ารักษาพยาบาล จำนวน 640.51 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 32.66 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในปี 2557 ทาง TKC มีอัตราขาดทุนสุทธิในปี 2557 จากการกำหนดอายุคอร์สยังไม่สอดคล้องกับการใช้บริการจริง และบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นในปี 2558 มีผลมาจากรายได้จากการใช้บริการของลูกค้าที่ชำระเงินก่อนปี 2558 มาใช้บริการในปี 2558 เพิ่มขึ้น รวมถึงในปี 2557 มีการกำหนดอายุคอร์สใหม่จากเดิม 2 ปี เป็น 1 ปี ส่งผลให้มีรายได้จากคอร์สที่ชำระเงินในปี 2556 หมดอายุในปี 2558 จำนวน 23.93 ล้านบาท และคอร์สที่ชำระเงินในปี 2557 หมดอายุในปี 2558 จำนวน 70.72 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ปี 2559 บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือร้อยละ 5 เนื่องจากรายได้จากคอร์สที่ชำระเงินในปี 2558 หมดอายุในปี 2559 มีจำนวนเพียง 77.59 ล้านบาท และหรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.14 และลดลงร้อยละ 0.04 ในปี 2558 ในปี 2559 ตามลำดับ

วัตถุประสงค์ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายสาขาใหม่ จำนวน 8 สาขา ซึ่งจะทยอยเปิดในช่วงปี 2560-2561 โดยมุ่งเน้นตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 15 - 20 ล้านบาท/สาขา โดยแบ่งออกเป็น เงินมัดจำค่าเช่า 1.50 – 2.00 ล้านบาท ค่าตกแต่งสาขา 3.00 - 4.00 ล้านบาท ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ 10.00 - 14.00 ล้านบาท และอุปกรณ์ 1.00 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

นอกจากนี้ TKC มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าผู้บริโภคเป็นแรงขับเคลื่อนในตลาด ทางบริษัทจึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงความต้องการอย่างตรงจุด และเมื่อนำความเข้าใจในผู้บริโภคมาปรับใช้กับการวางกลยุทธ์ ทำให้ส่งผลดีต่อการดำเนินงานและผลประกอบการที่เป็นเป้าหมายธุรกิจในระยะยาว ซึ่งบริษัทจึงได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขันเพื่อสร้างความได้เปรียบในระยะยาว อาทิ การพัฒนาการให้บริการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย, การพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้วยบุคลากรและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ, การสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รับรู้และจดจำ, การขยายขอบเขตการให้บริการ, ทำเลที่ตั้ง, ด้านราคาและการส่งเสริมทางการตลาด, การประชาสัมพันธ์, การทำสื่อการตลาดให้ลูกค้ากลุ่มดิจิตอลเนทีฟ (Digital Native)ต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ