นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) คาดว่ากำไรในปีนี้จะเติบโตราว 12-13% ทำสถิติสูงสุดใหม่ สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้จะเติบโตราว 10% เนื่องจากบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ซึ่งหลักๆ มาจากการที่ DELTA ลดการถือหุ้นบริษัทในยุโรป 4 แห่งเหลือ 49% จาก 100% และปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยหันใช้เครื่องมือทดแทนแรงงานมากขึ้น
บริษัทคาดว่ารายได้หรือยอดขายในปีนี้จะเติบโตราว 10% มาที่ 50,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 46,000 ล้านบาท โดยทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์มีการเติบโตมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายซิสเต็มส์ที่ใช้ระบบโทรคมนาคม กลุ่มผลิตภัณฑ์ Mobile Power Supplies กลุ่ม Industrial Automatic เช่น บันไดเลื่อน ลิฟท์ เป็นต้น
ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 27% จาก 26%ในปีก่อน โดยในไตรมาส 1/60 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.5%
"สัญญาณทุกตลาดดีขึ้นในไตรมาสแรก คิดว่าช่วงที่เหลือยอดขายเติบโต โดยเฉพาะยอดขายในอินเดีย คาดว่าเติบโตมาก หรือ 2 digit"นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทวางแผนใช้เงินลงทุนสร้างโรงงานในอินเดีย 200 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 5 ปี จากปัจจุบันที่เป็นการเช่าโรงงานผลิต โดยปีนี้จะใช้งบลงทุนในส่วนนี้ราว 30 ล้านเหรียญ
ส่วนงบลงทุนปกติปีนี้ใช้ราว 1 พันล้านบาท และตั้งงบวิจัยและพัฒนา (R&D) สัดส่วน 10% ของยอดขาย เพิ่มจากปีก่อนที่ใช้ในสัดส่วน 7-8% ของยอดขาย เพราะมองว่าเป็นงบพัฒนาสินค้าในอนาคต ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสซื้อกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสด จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่มีแนวคิดขึ้นภาษีกับประเทศผู้ส่งออกที่เกินดุลกับสหรัฐ รวมถึงไทยนั้น บริษัทซึ่งมีรายได้หลักส่วนหนึ่งจากการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐราว 30% ก็อยู่ระหว่างการติดตามเรื่องนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน อย่างไรก็ตาม มองกรณีเลวร้ายสุดที่สหรัฐอาจใช้มาตรการดีกกันทางการค้า บริษัทก็จะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปที่ยุโรปหรืออินเดียแทน