นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาธุรกิจและหนี้สินทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อฟื้นฟูกิจการของบริษัท ขอเวลาเข้าบริหารงานไม่เกิน 6 เดือนมั่นใจปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) หุ้น IFEC ได้ภายในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ และตั้งเป้าเดินหน้าธุรกิจกลับมาสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานได้อีกครั้งในปี 61
"บริษัทฯยังถือว่ามีทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากกว่าหนี้สิน อีกทั้งยังมีแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจนและแน่นอน โดยปัจจุบันยังมีการรับรู้รายได้จากทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้า และจากโรงแรมดาราเทวี"นายทวิช กล่าว
นายทวิช กล่าววา ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาจากการขาดสภาพคล่อง และการชำระคืนหนี้ ที่ประกอบด้วย ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) ราว 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้ราว 3,000 ล้านบาท หนี้สถาบันทางการเงินและหนี้ของบริษัทเกี่ยวโยงราว 1,200 ล้านบาท โดยจะเริ่มจากการยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
จากนั้นจะหาที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) ระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ และผู้บริหารของบริษัทฯ เข้ามาช่วยวางแผนเพื่อแก้ปัญหาหนี้เพื่อปรับจากหนี้ระยะสั้นมาเป็นหนี้ระยะกลางและยาวมากขึ้น รวมทั้งช่วยจัดหาแหล่งเงินกู้นะยะยาวและมีดอกเบี้ยในระดับที่เหมาะสม
เบื้องต้นจึงเสนอแผนแก้ปัญหาระยะสั้น ด้วยการขายที่ดินหลายแปลงที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท ประเมินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และอาจจะมีการพิจารณาตัดขายโรงไฟฟ้าบางแห่งที่มีผลขทดทุน เพื่อที่จะมาชำระหนี้ระยะสั้นบางส่วน และเจรจาขอยืดเวลาการชำระหนี้ในส่วนที่เหลือ
นอกจากนี้บริษัทยังต้องวางแผนปรับปรุงธุรกิจโรงแรมดาราเทวี ต่อยอดธุรกิจโรงแรม สปา รวมไปถึงการเดินหน้าพัฒนาศูนย์สุขภาพ ที่ปัจจุบันทั้ง 3 ส่วนนี้มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ความสนใจและติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะเข้ามาร่วมพัฒนา พร้อมกันนั้นโรงแรมดาราเทวียังมีที่ดินเปล่าที่สามารถตัดขาย หรือพัฒนาเป็น Residential และ Villa เพิ่มเติมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายทวิช กล่าวว่า สิ่งที่ IFEC ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเป็นอย่างแรกในขณะนี้คือ การปิดงบการเงินของปี 59 ให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และเสนอแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งสิ่งสำคัญในระยะเวลาใกล้ที่สุดคือ การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 60 ที่กำหนดจัดขึ้นวันที่ 2 พ.ค.60 ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และทุกอย่างมีความโปร่งใส เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าได้โดยไม่สะดุด
"จริงๆแล้วผมได้แจ้งเพื่อที่จะนัดประชุมบอร์ดในวันพรุ่งนี้ แต่จนถึงเวลานี้เองผมยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการประชุม ซึ่งผมเองมองว่าก็คงจะยังไม่เกิดการประชุมขึ้น แต่ผมก็เตรียมพร้อมรอไว้ ซึ่งหากไม่เกิดการประชุมขึ้นก็คงต้องพูดคุยกันในวันที่ 2 พ.ค.คือวันประชุมผู้ถือหุ้นเลย ซึ่งผมก็ยืนยันนะครับว่าจะไม่มีการปลดใคร เพราะตัวผมเองมองว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาทำงานขอแค่ให้ทำธุรกิจไปได้และมีผลการดำเนินงานที่เป็นบวกให้ได้ก็พอ และส่วนตัวผมขอยืนยันอีกเรื่องคือผมจะไม่ถอยแน่นอน จะเดินหน้าแก้ปัญหาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และหากได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเชื่อว่าจะสามารถปิดงบการเงินสิ้นสุด 31 ธ.ค.59, งบไตรมาส 1/60 และงบไตรมาส 2/60 ภายในเดือน ก.ย.-ต.ค."นายทวิช กล่าว
นายทวิช กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ และทรัพย์สิน ของบริษัทฯที่สามารถสร้างผลประกอบการ และสร้างผลตอบแทนได้ดี ซึ่งหากภายใน 6 เดือนนี้สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ ตนค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามทรถทำให้บริษัทฯกลับมามีกำไรจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯได้
"ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมมีความตั้งใจที่จะเข้ามาฟื้นฟูกิจการของ IFEC ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อที่จะให้บริษัทฯสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความมั่นคง แข็งแกร่ง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล สามารถตรวจสอบได้จากทุกฝ่าย"นายทวิช กล่าว