นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) เปิดเผยในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 60 วันนี้ ซึ่งมีผู้ถือหุ้นสอบถามประเด็นหลักเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มบริษัทในไซปรัสและสิงคโปร์ และลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใน GL ในภายหลัง โดยนายมิทซึจิ ยืนยันว่าการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ ไม่ได้เป็นการปล่อยสินเชื่อเพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นของ GL
ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อทุกครั้งบริษัทจะมีการสอบถามถึงวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม ซึ่งจุดประสงค์หลักจะเป็นการกู้เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจ และบริษัทก็ไม่ได้สนับสนุนหรือเชิญชวนให้ลูกหนี้เข้ามาซื้อหุ้น GL แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทคงไม่มีสิทธิไปควบคุมไม่ให้ผู้ที่สนใจในหุ้น GL หรือห้ามไม่ให้ใครเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานได้
"การให้เงินกู้กับลูกหนี้ เราไม่ได้ให้ไปซื้อหุ้นของบริษัทฯ และไม่มีการสนับสนุนให้ทำเช่นนั้น โดยที่ผ่านมากผ้มีผู้สนใจอยากจะซื้อหุ้น GL มากมาย เราก็ไม่ได้จำกัดสิทธิหรือห้ามไม่ให้ซื้อหุ้นบนกระดาน"นายมิทซึจิ กล่าว
นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นยังได้สอบถามกรณีที่ราคาหุ้น GL ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้จากความกังวลที่อาจต้องแก้ไขงบการเงิน และความไม่เชื่อมั่นในผู้บริหาร นายมิทซึจิชี้แจงว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากการเทขายหุ้นของนักลงทุนจากความกังวลเรื่องลูกหนี้กลุ่มสิงค์โปรและไซปรัสค้างชำระหรือผิดนัดชำระนั้น ยอมรับว่าเป็นเพียงความบกพร่องของการสื่อสารให้แก่นักลงทุน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กลุ่มผู้บริหารจะนำสิ่งที่เกิดขึ้นไปปรับปรุง และหาแนวทางการสื่อสารกับนักลงทุน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของบริษัทฯกลับคืนมา
สำหรับสินเชื่อที่ปล่อยกู้ผ่าน Group Lease Holdings Pte., Ltd. (GLH) ให้แก่กลุ่มผู้กู้ยืม 2 กลุ่มซึ่งจดทะเบียนในประเทศไซปรัสและสิงคโปร์ เพื่อปล่อยกู้ต่อให้กับผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ในกัมพูชานั้น นายมิทซึจิ กล่าวชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.60 ผู้กู้จากไซปรัสและสิงคโปร์ ได้ชำระเงินกู้และดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระให้แก่ GLH แล้ว และไม่ปรากฎเงินค้างชำระใดๆ
"การปล่อยกู้ให้กับกลุ่มไซปรัส และกลุ่มสิงคโปร์ ย้ำว่าบริษัทฯไม่ใช่ธนาคาร จึงอาจมีความเสี่ยงต่อการปล่อยกู้ แต่การปล่อยกู้ของบริษัทฯ แต่ละราย จะมีอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง เช่น การปล่อยกู้ให้กับผู้กู้รายย่อย มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 40% เป็นต้น ประกอบกับมีการตรวจสอบลูกหนี้ ก่อนปล่อยกู้ ซึ่งขณะที่บริษัทฯ ถือว่ามีคุณภาพลูกหนี้อยู่ในระดับที่ดี และ NPL ก็อยู่ในระดับที่ต่ำมาก"นายมิทซึจิ กล่าว
นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นยังสอบถาม นายโสภณ เพิ่มศิริวัลลภ ผู้สอบบัญชีจาก บริษัทสำนักงาน อีวาย จำกัด เกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตถึงการปล่อยกู้ดังกล่าวในงบการเงินปี 59 ของ GL ซึ่งได้นำหุ้น GL มาเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งนายโสภณ กล่าวว่า จะไม่มีการตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมต่อการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวอีก หลังจากที่บริษัทฯได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ครบถ้วนแล้ว
แต่หากมีปัญหาการค้างชำระเกิดขึ้น ทางผู้สอบบัญชีก็จะมีการตรวจสอบและทำหน้าที่ในฐานะผู้สอบบัญชีต่อไป โดยปัจจุบัน GL มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้ราว 257 ล้านบาท
นายมิทซึจิ ยังชี้แจงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทว่า บริษัทฯจะทำให้ดีที่สุด โดยยังคงมุ่งเน้นการดำเนินกิจการที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ประเทศ ให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งหากโอกาสจะลงทุนเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศเพิ่มเติม บริษัทก็มีความพร้อมจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือที่เพียงพอต่อการลงทุน
"ปัจจุบัน GL มีการดำเนินการใน 7 ประเทศ ณ ตอนนี้ยังคงมุ่งเน้นในสิ่งที่มีอยู่ก่อน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อย่างการปล่อยกู้ ขณะที่ปัจจุบันก็มีเงินสดในมือ เราสามารถเข้าซื้อกิจการได้ หากบริษัทนั้นๆสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ GL"นายมิทซึจิ กล่าว