นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินทิศทางมองตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ตลาดจะยังมีความผันผวนสูง อาจแกว่งแบบสลับบวกสลับลบ เนื่องจากเหตุผลที่ไม่ชัดเจนนัก แต่ที่สังเกตได้คือ มีแรงขายสลับเข้ามาเป็นรายตัว (ไม่ได้เทขายทั้งตลาด) โดยเฉพาะหุ้นที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1หรือขึ้น “XD" ไปแล้ว
ทั้งนี้ การประกาศแผนปฎิรูปด้านภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 เม.ย.) ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่หาเสียงและตามข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนมีการแถลงจริง คงมีเพียง repatriation tax ที่ยังไม่มีการระบุว่าจะต้องเสียในอัตราเท่าใด อีกทั้งยังไม่ได้ลงในรายละเอียดว่าแผนที่ประกาศนี้จะมีผลอย่างไรก็ต่องบประมาณหรือแม้กระทั่งไม่ชัดเจนต่อผลทางเศรษฐกิจ การตอบรับของนักลงทุนจึงไม่ดีเท่าที่ควร
โดยวันนี้ตลาดจะรอดูผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (ช่วงกลางวัน) และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะทราบผลหลังปิดตลาด นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะคงนโยบายการเงินไว้ แต่สิ่งที่ต้องจับตาดูคือ นโยบาย QE ของทั้งสองประเทศว่ามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่และเมื่อใด นายวิน ประเมินตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ว่าน่าจะทรงๆ ตัว เนื่องจากตัวแปรที่มีอยู่ในเวลานี้ ทั้งสถานการณ์เกาหลีเหนือที่อึมครึม นโยบายภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังน่าจะดึงให้นักลงทุนมองเศรษฐกิจสหรัฐฯในทางบวกเหมือนที่เคยมองไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งทิศทางของค่าเงินและดอกเบี้ยผันผวนสูง ส่วนปัจจัยในประเทศของไทยเป็นสัปดาห์ที่นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการเก็งและรายงานกำไรไตรมาส 1 และวันนี้จะเป็นการรายงานกำไรของ PTTEP (KTBST ประเมินกำไรไว้ที่ 8.1 พันล้านบาท +4.5% YoY)
"เนื่องจากตลาดขาดแรงซื้อและนักลงทุนพร้อมที่จะขายมากกว่า กลยุทธ์ในลักษณะตลาดแบบนี้ จึงยังต้องเน้นรอบสั้น คือ “ลงซื้อ ขึ้นขาย" สำหรับนักลงทุนที่ถือยาว หาก SET Index ยังไม่หลุด 1,550 จุด ยังแนะนำให้ถือต่อ สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ KTBST จะเน้นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ (Defensive + High Dividend Yield ) และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิเช่น BAFS , IVL , ADVANC , SPALI , AMATAV , TWPC ประเมินกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,556 – 1,570 จุด "