โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) คาดหวังผลดำเนินงานเฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป จากโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จเริ่มทยอยโอนมากขึ้น ขณะที่บริษัทมีความแข็งแกร่งในแง่ของมูลค่ายอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนรายได้เข้าเป้า
แม้ว่าแนวโน้มผลดำเนินงานในไตรมาส 1/60 จะอ่อนลงทั้งรายได้ และกำไร เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 59 อันเป็นผลจากปีที่แล้วรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยกระตุ้นให้มีการโอนมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 1/60 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ในระดับที่สูงกว่า 7.5 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.13 น.หุ้น SPALI อยู่ที่ 24.60 บาท ลดลง 0.20 บาท (-0.81%)
ไทยพาณิชย์ ซื้อ 30.00 บัวหลวง ซื้อ 30.00 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 30.00 ไอร่า ซื้อ 29.50 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 29.00 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 28.50 กสิกรไทย ซื้อ 28.50
น.ส.เติมพร ตันติวิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ"ซื้อ"SPALI หลังบริษัทสามารรถทำยอดขายไตมาส 1/60 ได้กว่า 7.5 พันล้านบาท เติบโตราว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตราว 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 โดยมาจากยอดขายทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่ทำยอดขายได้ดี ซึ่งยอดขายในไตรมาส 1/60 คิดเป็น 28% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 60 ที่ตั้งไว้ 2.7 หมื่นล้านบาท
ขณะที่แนวโน้มรายได้และกำไรในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะในไตรมาสแรกมีจำนวนโครงการที่ถึงกำหนดโอนไม่มากนัก แต่จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2/60 จากการโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่เตรียมโอนตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดโอนให้สูงขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไป
ด้านนายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า บริษัทมีความแข็งแกร่งในแง่ของมูลค่ายอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะบันทึกมาเป็นรายได้ในปีนี้กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ในปีนี้ของบริษัทมีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายที่ 2.45 หมื่นล้านบาท
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 คาดว่ารายได้และกำไรจะอ่อนตัวลงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะในไตรมาสแรกของปี 59 มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่สนับสนุนให้มีการโอนโครงการที่เป็นสต็อกเข้ามามาก แต่ในไตรมาส 1/60 บริษัทมีการโอนโครงการที่อยู่สต็อกลดลงและการโอนโครงการที่สร้างเสร็จลดลงไปด้วย ทำให้ไตรมาส 1/60 ผลการดำเนินการอาจจะอ่อนตัวลง แต่คาดว่าไตรมาส 2/60 จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากโครงการคอนโดมิเนียมใหม่รอโอนเพิ่มขึ้น
ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำ"ซื้อ"SPALI จากแนวโน้มยอดขายในไตรมาส 1/60 ที่ทำได้ออกมาในระดับที่ดี เติบโตขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 4/59 โดยบริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 7.5 พันล้านบาท ปัจจัยหนุนมาจากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ โครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 และโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9 ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ดี
นอกจากนี้ ยังมองว่าแนวโน้มยอดโอนในปีนี้มีโอกาสทำได้ตามเป้าหมาย 2.45 หมื่นล้านบาท แม้ว่ายอดโอนในไตรมาส 1/60 จะมีแนวโน้มที่ค่อนข้างอ่อนตัวลง เพราะไตรมาสแรกปีนี้ไม่มีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เหมือนอย่างปีก่อน แต่บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) สูงกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วยสนับสนุนยอดโอนของบริษัทได้ถึงอีก 3 ปี และแนวโน้มยอดโอนไตรมาส 2/60 คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งเพราะบริษัทมีการโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ที่จะเริ่มทยอยโอนมากขึ้นในไตรมาสนี้เป็นต้นไป อีกทั้งการเปิดโครงการแนวราบควบคู่ไป ทำให้บริษัทสามารถมียอดโอนที่บันทึกเข้ามาได้เร็วช่วยสนับสนุน