นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินทิศทางมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (2-5 พ.ค.60) ว่า สัปดาห์นี้จะปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญในต่างประเทศ 3 เรื่อง คือ การโต้วาที (debate) ก่อนเลือกตั้งรอบ 2 ของฝรั่งเศส ในวันที่ 3 พ.ค. , การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 3 พ.ค. และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ และที่น่าจะสำคัญที่สุด คือ การเลือกตั้งรอบสองของการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.นี้
จึงประเมินว่า ด้วยแรงขายของนักลงทุนที่คาดว่าจะยังมีเข้ามาในตลาดบวกกับนักลงทุนจะรอคอย Event และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ จะทำให้ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะผันผวนในกรอบแคบ และมีแนวโน้มลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยที่ทิศทางดัชนีฯ จะขึ้นอยู่กับตัวแปรสำคัญ ๆ ดังที่กล่าวไปว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่
ขณะที่ตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย อาทิ เกาหลีเหนือพยายามทดสอบขีปนาวุธ แต่ไม่สำเร็จ เมื่อ 29 เม.ย. แม้จะไม่สร้างความวิตกให้เหมือนการทดลองนิวเคลียร์ แต่กระตุ้นให้สหรัฐฯและพันธมิตรเร่งกระบวนการกดดันต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจสร้างความอึมครึมให้กับตลาดได้
ส่วนปัจจัยในประเทศ จะยังเป็นการเข้ามาเก็งงบไตรมาส 1/60 ซึ่งจะมีผลต่อหุ้นเป็นรายตัวโดยเฉพาะหุ้นเล็ก-กลาง ที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น ขณะที่การใช้จ่าย-ลงทุนของภาครัฐกำลังอยู่ในความสนใจว่า ภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการใช้จ่ายออกมาอีกหรือไม่
ดังนั้น ด้วยทิศทางตลาดที่ยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวทรงตัว (sideway) หรือหากปรับขึ้นได้ก็ขึ้นได้ไม่มาก นักลงทุนจึงอาจเลือกที่จะปรับลดพอร์ตลง เพื่อลดความเสี่ยง สำหรับนักเก็งกำไร ควรจับจังหวะเป็นรอบ เน้นเล่นสั้นแบบ “ลงซื้อ ขึ้นขาย" และเช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนที่ KTBST ยังมองว่าหุ้นตัวหลัก ๆ ของตลาดส่วนใหญ่ราคาขึ้นมามาก หรือ upside เหลือไม่มาก การเลือกหุ้นจึงต้องเป็นแบบรายตัว หรือเลือกเล่นเก็งกำไรตามข่าวหรือเก็งงบไตรมาส 1 ที่จะมีการคาดการณ์หรือนำส่งงบเข้ามามากขึ้นในสัปดาห์นี้
สำหรับหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ เช่น INTUCH , AP , KCE , BEM , AU, AMANAH , LST , IFS , TWPC ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,550-1,584 จุด