นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ด้วยคะแนนสูงสุดถึง 864,350,519 คะแนน ,พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ได้รับคะแนนเสียง 45,163,605 คะแนน และ นายปริญญา วิญญรัตน์ ได้คะแนน 41,791,868 คะแนน ทั้ง 3 คน ถือว่าได้รับเลือกจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ประจำปี 60 วันนี้ ให้เป็นกรรมการใน IFEC แทนกรรมการที่ครบวาระจำนวน 3 คน
สำหรับกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระทั้ง 3 คน ได้แก่ 1.นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ 2.พล.ต.อ.สุนทร และ 3.นายปริญญา ขณะที่มีผู้ถือหุ้นเสนอรายชื่อกรรมการทดแทนให้ที่ประชุมลงคะแนนคัดเลือกในวันนี้ ได้แก่ 1.นายพีรธัช สุขพงษ์ 2.นายวิภู มหารักขกะ 3.นายสุกิจ อังสุวรรณ 4.พล.ต.นพรัตน์ แป้นแก้ว 5.นายหาญ เชี่ยวชาญ 6.พล.ต.อ.สุนทร 7.นายปริญญา และ 8.นายธีติพันธ์
สำหรับกลุ่มเทพผดุงพร เป็นผู้เสนอชื่อนายธีติพันธ์ เข้ารับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการ ซึ่งกลุ่มเทพผดุงพร ถือหุ้น IFEC ราว 5.45% ถือเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2
ก่อนหน้านี้นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC ระบุว่า กลุ่มเทพผดุงพรต้องการให้นายธีติพันธ์เข้ามาเป็นคนกลางในการร่วมบริหารงาน และผลักดันธุรกิจไอเฟคให้เดินหน้าต่อไปตามแผนที่คณะกรรมการบริษัทกำหนดไว้แล้ว ยังเข้ามาช่วยคลี่คลาย และลดปัญหาความขัดแย้งภายใน
รายงานข่าวจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น IFEC ระบุว่า หลังจากนายธีติพันธ์ ได้รับเลือกเข้ามา ขณะนี้ถือว่านายวิชัยมีกรรมการในฝั่งของตนเองเพิ่มขึ้นเป็น 5 คน จากกรรมการทั้งหมด 9 คน ขณะที่ฝั่งของนายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC มีกรรมการในฝั่งของตนเองลดลงเหลือ 4 คน จากเดิม 5 คน เนื่องจากได้เสนออรายชื่อกรรมการเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ 3 คน ประกอบด้วย นายหาญ พล.ต.อ.สุนทร และนายปริญญา แต่ได้รับเลือกกลับเข้ามาเพียง 2 คน
สำหรับเลือกตั้งกรรมการวันนี้ นายวิชัย ในฐานะประธานในที่สุด และที่ปรึกษา กำหนดให้ใช้วิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม(comulative voting) ซึ่งจะกำหนดสิทธิการโหวตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แบ่งคะแนนให้กับผู้ที่ต้องการสนับสนุนให้เข้ามาเป็นกรรมการ 3 คน แม้ว่าจะมีผู้ถือหุ้นหลายรายที่พยายามคัดค้านการลงคะแนนในรูปแบบนี้ รวมทั้งนายทวิชก็ขอใช้สิทผู้ถือหุ้นใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วย แต่ทางทีมทนายและที่ปรึกษายืนยันว่าการเลือกตั้งกรรมการในรูปแบบนี้ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีการดำเนินการเลือกตั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณวาระที่ 2 ผูถือหุ้นลงมติไม่รับรองรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2560 และครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นการลงคะแนนด้วยวิธีปกติ โดยมีเสียงไม่เห็นด้วยคิดเป็น 52.10% ส่วนเสียงที่เห็นด้วย 47.26%
นอกจากนั้น ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวันนี้เกิดเตหุความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อนายวิขัยแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าในระหว่างการประชุมวันนี้กำหนดว่าหากต้องมีข้อซักถามหรือการอภิปรายจะต้องใช้เวลาคนละไม่เกิน 3 นาที และต้องเลิกการผระชุมภายในเวลา 12.00 น.เนื่องจากต้องมีการเตรียมจัดระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อรับเสด็จฯ