สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (24 - 28 เมษายน 2560) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 512,394.21 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 102,478.84 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 16% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 65% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 330,997 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 81,835 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,779 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB226A (อายุ 5.1 ปี) LB21DA (อายุ 4.6 ปี) และ LB26DA (อายุ 9.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 26,057 ล้านบาท 10,100 ล้านบาท และ 9,540 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY179A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 1,036 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT192B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 1,006 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รุ่น CPALL178B (A(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 954 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้น 2-8 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยนาย Emmanuel Macron ชนะการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) ทำให้ความเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะจากสหภาพยุโรป (Frexit) ]ลดลง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% และปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มาอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนในเดือน มี.ค. 2560 ซึ่งเป็นไปตามที่ ECB ประกาศไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.2559 ทั้งนี้ตลาดติดตามความคืบหน้าร่างกฎหมายงบประมาณของสหรัฐฯ ภายในศุกร์นี้ (28 เม.ย.) หากไม่สำเร็จจะส่งผลให้มีการปลดข้าราชการและปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนเป็นการชั่วคราว
สัปดาห์ที่ผ่านมา (24 - 28 เม.ย. 2560) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 7,903 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 3,246 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 3,357 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 1,300 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (24 - 28 เม.ย. 60) (17 - 21 เม.ย. 60) (%) (1 ม.ค. - 28 เม.ย. 60) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 512,394.21 442,707.66 15.74% 7,390,017.61 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 102,478.84 88,541.53 15.74% 93,544.53 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 106.6 106.94 -0.32% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.77 105.71 0.06% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (28 เม.ย. 60) 1.41 1.48 1.5 1.72 2.13 2.77 3.25 3.53 สัปดาห์ก่อนหน้า (21 เม.ย. 60) 1.42 1.48 1.5 1.72 2.11 2.7 3.17 3.5 เปลี่ยนแปลง (basis point) -1 0 0 0 2 7 8 3