นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น IFEC ประจำปี 60 ในวันนี้ได้เลือกตั้งคณะกรรมการใหม่เข้ามาอีก 3 คนเพื่อทดแทนกรรมการเดิมที่ครบวาระไปแล้วนั้น จากนี้บริษัทจะเร่งดำเนินการจดทะเบียนคณะกรรมการใหม่กับกระทรงพาณิชย์ และจะจัดให้ประชุมคณะกรรมการให้ได้ภายใน 7 วันหลังจากวันจดทะเบียน
ทั้งนี้ เพื่อที่คณะกรรมการบริษัททั้งหมดจะได้เร่งดำเนินการปิดงบการเงินของผลการดำเนินงานงวดปี 59 และไตรมาส 1/60 พร้อมหาแนวทางการชำระหนี้ และแผนการดำเนินกิจการในอนาคตภายในเดือน พ.ค. ก่อนที่จะยื่นขอปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) หุ้น IFEC ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในเดือน มิ.ย.นี้ พร้อมกันนี้ IFEC ยังจะเตรียมพร้อมที่จะเข้าประมูลเพื่อร่วมโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตรเฟส 2 ที่กำลังจะเปิดรับข้อเสนอจากผู้สนใจในเร็ว ๆ นี้
อนึ่ง ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 60 ของ IFEC วันนี้มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายปริญญา วิญญรัตน์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากฝั่งนายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IFEC เข้ามาเป็นกรรมการอีกวาระหนึ่ง พร้อมทั้งเลือกนายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ซึ่งเป็นตัวแทนฝั่งนายวิชัยเข้ามาเป็นกรรมการใหม่ ส่งผลให้กลุ่มนายวิชัยมีเสียงในคณะกรรมการ 5 เสียง ส่วนนายทวิชมีเสียงในคณะกรรมการ 4 เสียง
ขณะที่นายทวิช ในฐานะกรรมการบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรรมการ IFEC ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยให้เหตุผลว่านายวิชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประขุมดำเนินการประชุมโดยขัดต่อข้อบังคับของบริษัทที่กำหนดวิธีเลือกตั้งกรรมการไว้ดังนี้ 1.ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียง และ 2.ผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะต้องใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดเลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลายคนเป็นกรรมการก็ได้ แต่จะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงคนเดียวไม่ได้
โดยนายวิชัย ได้กำหนดวิธีเลือกกรรมการให้ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่คูณด้วยจำนวนกรรมการที่จะเลือกตั้ง และผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดก็ได้ ทำให้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น IFEC เป็นมติที่ไม่ได้ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนต่อข้อบังคับบริษัท และฝ่าฝืน พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 70 จึงขอให้ระงับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการทั้ง 3 คนและจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญากับนายวิชัยและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
นายทวิช กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม (Cumulative Voting) เนื่องจากมองว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทฯ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการลงคะแนนแบบ Cumulative Voting เหมาะกับการที่กรรมการเก่าลาออกทั้งหมดแล้วจึงมีการเลือกตั้งกรรมการใหม่ทั้งหมด แต่ครั้งนี้เป็นการเลือกกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระเพียง 3 คนเท่านั้น
"ที่ผมมาในวันนี้เพราะผมเชื่อว่าอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือเห็นความชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ไม่เกิดขึ้น และในการลงคะแนนช่วงวาระที่ 3 เกี่ยวกับการเลือกกรรมการใหม่ทดแทนกรรมการที่หมดวาระ ผมก็ไม่ได้ลงคะแนนเพราะผมมองว่ายังไงก็ไม่ถูกอยู่แล้ว และก็คงเหมือนเดิมที่การประชุมครั้งนี้จะไม่ได้รับการรับรองเหมือนครั้งก่อนๆ"นายทวิช กล่าว
นอกจากนั้น นายทวิช ยังเชื่อว่าจะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งเห็นได้จากที่ผู้ถือหุ้นมีมติไม่รับรองการประชุมผู้ถือหุ้น 2 ครั้งที่ผ่านมา และต่อไปคงมีการรวมตัวกันของผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรณีการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายจากวิธีการเลือกกรรมการไม่เป็นไปตามข้อบังคับบริษัทและตามกฎหมายด้วย
สำหรับการดำเนินการต่อจากนี้ นายทวิช กล่าวว่า จะต้องรอดูการเข้ามาตรวจสอบของทาง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลท.ว่าจะมีการดำเนินการกับการกระทำดังกล่าวอย่างไร และจะขอรอดูแนวทางการบริหารของนายวิชัยว่าจะทำอย่างไรต่อไปในการแก้ปัญหาต่างๆ ของ IFEC