นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวันนี้น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานมากนัก หลังตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐมีการเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละกลุ่มบวกลบคละกัน โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น แต่หุ้นในกลุ่มยานยนต์และพลังงานพักตัว ขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียวันนี้มีหลายแห่งที่ปิดทำการทั้งญี่ปุ่น,ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ส่วนตลาดที่เปิดทำการก็มีลักษณะของการซึมตัวลงและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานบ้าง อย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาน้ำมันในตลาดจร (spot) กระเตื้องขึ้นบ้าง และเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์บางตัว ซึ่งน่าจะยังทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยมี downside จำกัด
นอกจากนี้นักลงทุนยังรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียน และทิศทางการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ตลอดจนรอดูผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ และวันนี้ ซึ่งในมุมมองของโนมูระ พัฒนสิน เห็นว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 พ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,949.89 จุด เพิ่มขึ้น 36.43 จุด (+0.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,095.37 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด (+0.06%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,391.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด (+0.12%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.40 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.41 จุด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันระลึกรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 พ.ค.60) 1,564.12 จุด ลดลง 2.20 จุด (-0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 216.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พ.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 พ.ค.60) ปิดที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ค.60) ที่ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.46 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 34.30-34.50 นักลงทุนรอประชุมเฟดคืนนี้
- เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยนัดยื่นศาลรัฐธรรมนูญ 9 พ.ค.60 เพื่อให้วินิจฉัยการทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียมฯ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 77 และอีกหลายมาตราหรือไม่ ชี้ละเมิดสิทธิรับฟังความเห็น ปราศจากการวิเคราะห์ผลกระทบรอบด้าน ไม่เปิดเผยผลการรับฟังความเห็นและการวิเคราะห์ต่อประชาชน พร้อมยื่นนายกฯ-ประธานสนช.นำร่างฯ กลับมาทบทวนแก้ไข
- ปลัดกระทรวงการคลัง เผยจะหารือ รมว.คลัง เพื่อสรุปมาตรการที่จะออกมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้เต็มศักยภาพ 4-5% ซึ่งการดำเนินการจะไม่กระทบกับเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยที่ปัจจุบันมีพื้นฐานที่เข้มแข็ง ด้านกกร. ปรับประมาณการส่งออกปีนี้ขยายตัว 2-3.5% จากเดิมที่คาดว่าทั้งปีนี้จะโต 1-3% โดยสินค้าที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ หลังมองเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกของไทยขยายตัวตาม
- ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ของเดือน มี.ค.2560 พบว่าดัชนีความ เชื่อมั่นอยู่ในระดับ 97.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ. อยู่ในระดับ 96.2 เป็นผลจากปัจจัยด้านยอดจำหน่าย การลงทุนและกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในภาคการค้าปลีก
- ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า แนวโน้มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่อสินเชื่อรวมของระบบธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มหรือลดน่าจะอยู่ที่ว่าอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใด ยังต้องรอดู เพราะข้อมูลที่ออกมาในเดือน มี.ค. 2560 หรือไตรมาสแรกปีนี้ แม้เอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ต่างจากที่ ธปท.เคยประเมิน จึงไม่ได้มีประเด็นน่ากังวล
- รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง วงเงินรวม 1.06 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง 30.4 กม. วงเงินราว 5.2 หมื่นล้านบาท และสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงินราว 5.4 หมื่นล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่ออนุมัติในวันที่ 9 พ.ค.นี้
- ตลาดเอ็มเอไอ เดินสายต่างจังหวัด ดึงบริษัทเข้าระดมทุน พบมากกว่า 50% มีศักยภาพเข้าจดทะเบียน แม้ก.ล.ต.จะมีการปรับเกณฑ์ใหม่ให้เข้มขึ้น ชี้ผู้บริหารเริ่มเห็นประโยชน์ของตลาดทุน คาดต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมอีก 3-5 ปี
*หุ้นเด่นวันนี้
- ESSO (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท เชื่อปิดปรับปรุงโรงกลั่นบางส่วนเพื่อบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธภาพหน่วยกลั่น 40 วันจะลดปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบใน 2Q60 ลงเหลือ 1.2 แสนบาร์เรล/วัน จากปกติ 1.35-1.40 แสนบาร์เรล/วัน คาดผลกระทบยอดขายและค่าการกลั่นน้อยกว่าการปิดปรับปรุงปกติเนื่องจากปรับปรุงเฉพาะบางหน่วยผลิต และบริษัทยังจะเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยบำบัดกำมะถันเพื่อให้กลั่นน้ำมันดิบที่มีสัดส่วนกำมะถันสูงขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้น มองหยุดผลิตในครั้งนี้กระทบผลกำไรปี 60 เพียง 300 ล้านบาท หรือ 5% ของประมาณการ และ ESSO ยังคงน่าสนใจจากผลการดำเนินงาน 1Q60 ที่แข็งแกร่งและมีโอกาสจะจ่ายเงินปันผลใน 2H60
- CPN (ไอร่า) ให้ราคาเป้าหมาย 69 บาท แม้จะมีแผนการปรับปรุง 5 ศูนย์การค้าในปี 60 แบ่งเป็น (1) ปรับปรุงใหญ่ 2 ศูนย์ คือ เซ็นทรัลเวิลด์ และ พระราม 3 (2) ปรับปรุงบางส่วน 3 ศูนย์ คือ เซ็นทรัล พระราม 2 เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และ ภูเก็ต คาดทำให้อัตราการเช่า 93% ลดลงจาก 94% เมื่อปี 59 และคาดกระทบกำไร 1.7% แต่จะได้รับการชดเชยจาก 3 ศูนย์ใหม่เปิดปีนี้ รวมถึงรับรู้เต็มปีเซ็นทรัล พลาซ่า นครศรีธรรมราช ทำให้พื้นที่เช่าโดยรวมเพิ่มขึ้น 9% หรืออยู่ที่ 1.53 ล้านตร.ม. และคาดปี 60 ยังโตได้ดีต่อเนื่อง คาดรายได้-กำไรสุทธิ 29,643 ล้านบาท และ 10,087 ล้านบาท โต 7% และ 9% ตามลำดับ
- TISCO (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ปรับราคาเป้าหมายเป็น 85 บาท จาก 70 บาท แม้ปรับการเติบโตสินเชื่อลงเฉลี่ย 2% ในช่วงปี 60-62 แต่ปรับประมาณการณ์ผลกำไรขึ้น 3% ในปี 60, 2% ในปี 61 และ 5% ในปี 62 สะท้อนผลจากต้นทุนการกู้ยืมและค่าใช้จ่ายตั้งสำรองต่ำกว่าคาด ปรับค่าสมมติฐานลง 30bps และ 12% ตามลำดับ และเงินทุนเกินพอจากการเติบโตสินทรัพย์ที่ชะลอตัว ทำให้คาด TISCO จะเพิ่มสัดส่วนจ่ายเงินปันผลขึ้นเป็น 55% (56% ในปี 59) จากเดิม 45% ในปี 58 และจากปรับประมาณการณ์ผลกำไรขึ้นนี้ ทำให้ราคาเป้าหมายอ้างอิง DDM ของเพิ่มขึ้นเป็น 85 บาท เทียบเท่า P/BV 2 เท่าอ้างอิงปี 2017F ซึ่งมองว่าสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับ ROE ในระดับสูงที่ 17%