นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ แม้จะได้รับแรงกดดันจากที่วันนี้หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล อย่างหุ้น KTB, BLA เป็นต้น ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯราว 2 จุด
แต่เชื่อว่าตลาดฯจะได้รับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสที่นายเอมมานูเอล มาครอง ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกราว 0.2-0.5% นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีดกลับหลังจากปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ทำให้มองว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,563-1,564 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 พ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,006.94 จุด เพิ่มขึ้น 55.47 จุด (+0.26%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,100.76 จุด เพิ่มขึ้น 25.42 จุด (+0.42%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,399.29 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด (+0.41%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 263.31 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 12.97 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 127.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.71 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.31 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 พ.ค.60) 1,569.02 จุด ลดลง 4.03 จุด (-0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,138.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 พ.ค.60) ปิดที่ 46.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 พ.ค.60) ที่ 5.72 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.67 ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ-ผลเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส มองกรอบวันนี้ 34.60-34.75
- แผนการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ต้องล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่คาดว่าจะขายภายในเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจากกระทรวงคมนาคมสั่งการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) ทบทวนเรื่องการโอนเงินรายได้ 45% ของทางด่วนเส้นฉลองรัฐและทางด่วนบูรพาวิถีที่ กพท.เป็นเจ้าของสินทรัพย์ให้กองทุนเป็นเวลา 30 ปี
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐ (ไอทีซี) ขอให้มีการเปิดไต่สวนในการใช้มาตรการปกป้อง (เซฟการ์ด) เช่น การขึ้นภาษีกับสินค้าโซลาร์เซลล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมภายในของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการนำเข้าสินค้าโซลาร์เซลล์จากต่างประเทศ
- คมนาคม ชงรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง เข้า ครม. 9 พ.ค.นี้ คาดปลายปีเริ่มก่อสร้างได้ ลุ้นข้อเสนอเอกชนขยายเชื่อมเข้าเมืองทองฯ-แยกรัชโยธิน
- รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 8 พ.ค. คณะนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกง และนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน 60 บริษัท นำโดยนายวินเซนต์ โล ประธานเอชเคทีดีซี และนายโจว ยาจุน รองผู้อำนวยการทั่วไป สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าแห่ง รัฐบาลท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อลงนาม (เอ็มโอยู ) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กับเอชเคทีดีซี เพื่อร่วมกันศึกษาโอกาสความร่วมมือพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี ) อย่างครอบคลุม รวมทั้งร่วมงานสัมมนาเจาะลึก ยุทธศาสตร์ไทย-ฮ่องกง-เซียงไฮ้
- อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า การขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการในเดือนมกราคม-เมษายน 2560 มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 1,533 โรงงาน ลดลง 5.07 % จากช่วงเดียวกันในปี 2559 ที่มีอยู่ 1,615 โรงงาน
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 208 บาท NPL ที่เพิ่มขึ้นใน Q1/60 ไม่เปลี่ยนแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่คาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในปีนี้ ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น, ผลกระทบจาก PrompPay ต่ำกว่าคาด และรายได้ธุรกิจกองทุนแข็งแกร่ง ส่งผลให้ปรับกำไรขึ้น 2.2-4% ในปี 60-61 ขณะที่คาดการณ์สินเชื่อกลับมาขยายตัวในช่วง H2/60, กำไรกลับมาขยายตัวปีนี้ +11% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV 0.9x เท่านั้น
- ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 21.40 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/60 ชะลอตัว 8% Q-Q และ 13% Y-Y แม้คาดรายได้จากการขายท่อจะโตต่อเนื่องอีก 10% Y-Y แต่ถูกดดันจากต้นทุนเหล็กที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่รายได้งานรับเหมาวางระบบไฟฟ้าจากบริษัทลูกยังไม่เข้า จึงทำให้ Gross Margin คาดว่าจะลดลงเหลือ 32.0% จาก 32.7% และ 36.2% ใน Q4/59 และ Q1/59 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า Q1/60 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีโดยปัจจุบันต้นทุนเหล็กเริ่มลดลงและรายได้จากการขายให้โครงการขนาดใหญ่ เช่น ท่อร้อยสายไฟใต้ดินจะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ Q2/60
- SMIT (โกลเบล็ก) ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายปี 60 เติบโต 10% สู่ 2.2 พันล้านบาทจากการเพิ่มสินค้าประเภทเครื่องจักรสำหรับตัดเหล็กแผ่น และการรับงานชุบเหล็กจากชิ้นส่วนเครื่องบินหลังได้มาตรฐาน Aero Space standard(AS) นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการขอมาตรฐาน NADCAP เพื่อรับงานชุบเหล็กชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องบินซึ่งจะหนุนรายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และจุดเด่นมี D/E ที่ต่ำเพียง 0.14 เท่า และจ่ายปันผลสม่ำเสมอในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาราว 5.2-6.4%ต่อปี แต่ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 15 เท่าปรับตัวขึ้นจากค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลังที่ 12 เท่า