MAX-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.01 บาท มูลค่าซื้อขาย 19.26 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.01 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.02 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.01 บาท
ขณะที่หุ้น MAX ปิดที่ 0.05 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1.16 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.05 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.05 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.04 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) ใช้ชื่อย่อว่า MAX-W3 จะมี All-in Premium ที่ 36% แต่อย่างไรก็ตามมองว่า MAX-W3 มีความเสี่ยงที่สูงมากจากสถานะที่ At The Money และอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิที่สั้นเพียง 6 เดือน โดยมองเสมือนสิทธิในการเพิ่มทุน (มีเวลาซื้อขายจริงราว 4 เดือน) และราคาใช้สิทธิปัจจุบันเท่ากับราคาหุ้นแม่ในกระดานอยู่เท่ากัน ทำให้มองว่าการลงทุนในหุ้นแม่มีความเสี่ยงที่น้อยกว่า
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 0.05 บาท (8 พ.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ MAX-W3 เพียง 0.018 บาท คิดเป็น All-in Premium 36% พร้อมให้กรอบมูลค่า MAX-W3 ไว้ที่ 0.001-0.063 บาท เมื่อราคาหุ้น MAX เคลื่อนไหวในกรอบ 0.01-0.11 บาท โดยปี Volatility 150% per year
MAX-W3 จำนวนที่ออก 2,503.59 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมได้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน 5 หุ้นที่ราคา 0.05 บาท และ 4 หุ้นเพิ่มทุนได้รับ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ (ขึ้นเครื่องหมาย XRW ในวันที่ 5 ม.ค.2560) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 0.05 บาท, อายุ 6 เดือน โดยสามารถใช้สิทธิได้ครั้งเดียวในวันหมดอายุคือวันที่ 19 ต.ค.2560
MAX จำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็ก เหล็กแปรรูปทุกชนิด และวัสดุที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กและการผลิตเหล็ก โดยจำแนกผลิตภัณฑ์ได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) กลุ่มวัตถุดิบเช่นเศษเหล็ก 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเช่น บิลเลตและ สแลบ 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป 4) กลุ่มวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานเหล็ก