ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 7.71 จุด ผิดหวังงบฯ TKN-แนวโน้มราคาน้ำมันอ่อนตัวกดดันตลาด,วิตกเหตุระเบิดห้าง"บิ๊กซี"ปัตตานี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 9, 2017 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,560.31 จุด ลดลง 7.71 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 43,196.83 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากในช่วงเช้า แต่ในภาคบ่ายดัชนีฯได้เคลื่อนไหวในแดนลบ จนช่วงท้ายใกล้ปิดการซื้อขายดัชนีฯได้ร่วงไปกว่า 10 จุด ก่อนจะลดช่วงลบลงเมื่อปิดตลาด โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,571.08 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,557.60 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 281 หลักทรัพย์ ลดลง 925 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 335 หลักทรัพย์

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน โดยเฉพาะแรงขายในหุ้นบางตัวที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ออกมาต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ อย่างเช่น บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) ที่เป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ฉุดดัชนีฯ

ขณะเดียวกันตลาดฯยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนให้ดัชนีฯกลับมารีบาวด์ได้อย่างชัดเจน เพราะขณะนี้ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นปัจจัยกดดัน ทั้งปัจจัยภายในประเทศเรื่องของผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเหตุระเบิดที่ปัตตานีเมื่อช่วงบ่าย แต่ยังไม่มีนัยสำคัญมาก

ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศยังเป็นเรื่องของทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลงอยู่ และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูปัจจัยต่าง ๆ และรอดูจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย

พรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ เนื่องในวันวิสาขบูชา

แนวโน้มการลงทุนในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (11 พ.ค.) นายธนเดช คาดว่า แนวโน้มดัชนีฯอาจจะมีความผันผวน โดยต้องติดตามการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียนที่เหลือที่กำลังทยอยออกมาว่าจะออกมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ ซึ่งหากไม่เป็นไปตามการคาดการณ์ มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญแรงขายต่อ โดยทิศทางของดัชนีจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบ Sideway down แต่ถ้าหากผลการดำเนินงานออกมาดีก็มีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์กลับได้ในระยะสั้น อีกทั้งยังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันต่อไป เพราะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดต่างประเทศด้วย

พร้อมให้แนวต้าน 1,570 จุด แนวรับ 1,550 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,936.68 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.70 บาท

TKN มูลค่าการซื้อขาย 2,494.25 ล้านบาท ปิดที่ 20.80 บาท ลดลง 2.80 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,373.27 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,266.08 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท ลดลง 0.95 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,441.33 ล้านบาท ปิดที่ 41.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ