GBS คาด SET สัปดาห์นี้ไร้ทิศทางชัดเจนขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น-กระแส Fund Flow ผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 11, 2017 10:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกับกระแส Fund Flow ที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อดักงบไตรมาส 1/60 ที่กำลังทยอยประกาศช่วงพยุงดัชนีได้ ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,550-1,585 จุด

ทั้งนี้ แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต แนะนำ PTTGC, WICE, JWD และ LIT

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มโอเปกกำลังพิจารณาขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า

รวมถึงกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ของไทยกำหนดไว้ราว 2.9 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 450,000 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นแบบขาดดุล แต่ลดลงจากที่ขาดดุล 552,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 60 และ S&P ชี้ผลการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสไม่กระทบอันดับเครดิตประเทศ จากที่ประเมินว่ารัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศสมีแนวโน้มที่จะยังคงสานต่อนโยบายการปฏิรูปของรัฐบาลปัจจุบันหรืออาจเร่งให้มีความรวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยกดดันมาจาก Fund flow ต่างชาติที่มีความผันผวนโดยตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นขายสุทธิ (Net Sell) 2.5 พันล้านบาท และการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะลดลง 0.2% สู่ระดับ 3.0% ในปีนี้

ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 11 พ.ค.60 ธนาคารกลางอังกฤษประชุมนโยบายการเงิน และในวันที่ 15 พ.ค. กำหนดวันสุดท้ายในการส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียน ส่วนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีกำหนดแถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 1/60

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ผ่อนแรงตึงเครียดลงหลังจากจะไม่เกิด Frexit แต่โดยปัจจัยเฉพาะตัวทางการเมืองในฝรั่งเศสแล้วอาจก่อปัญหาให้กับกลุ่มประเทศยูโรโซนในแง่ของเศรษฐกิจได้ในอนาคต ส่วน Brexit ไม่มีผลกระทบต่อราคาทอง แม้ข้อเรียกร้องของ EU จะทำให้อังกฤษตกอยู่ในที่นั่งลำบากหลังได้รัฐบาลใหม่ก็ตาม

ส่วนความตึงเครียดในฝั่งเอเชียเองก็ผ่อนคลายลงหลังสหรัฐฯลดบทบาทที่แข็งกร้าวในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีเนื่องจากการผ่านร่างงบประมาณเพื่อไม่ให้ชัตดาวน์มีความสำคัญกว่า และนำมาซึ่งการผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ “อเมริกันเฮลธ์แคร์" อันเป็นจุดขายเชิงนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับลดงบดุลและมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในช่วงกลางปี ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม มุมมองทางเทคนิคให้ภาพ selling climax ที่สนับสนุนการรีบาวน์ของราคาทองคำ แต่การปรับขึ้นจะมีกรอบจำกัดเนื่องจากเป็นการดีดกลับในภาวะขาลงเท่านั้น ซึ่งการทะลุผ่านขึ้นเหนือ 1,235 ดอลลาร์ จะให้สัญญาณซื้อ และแนะนำตั้งจุด stop loss เมื่อราคาทองหลุดระดับ 1,220 ดอลลาร์ จึงอาจสะสมสถานะ long ก่อนการ breakout หรือเลือกเล่น breakout follow ก็ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ