นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังคงเน้นการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิ จากการเปิดจุดจำหน่ายใหม่ประมาณ 20-25 แห่ง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดต่าง ๆ ในครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตามเนื่องจากการบริโภคที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 1 ทำให้บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโตประมาณ 10% ซึ่งลดลงจากประมาณการก่อนหน้าที่เคยคาดไว้ที่ 12-15%
อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้นโดยลำดับ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการควบรวมโรงงานผลิตกางเกงยีนส์ 2 โรงงานในกรุงเทพฯ เข้าด้วยกันเพื่อช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ตลอดจนเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนธุรกิจนาฬิกาซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TDC) ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ปัจจุบันได้มีการกำหนดกลยุทธ์การขายที่มุ่งเน้นในการบริหารประเภทและแบรนด์สินค้าให้สอดคล้องกับช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น ตลอดจนจะมีการจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกันมากขึ้น ภายหลังจากที่ TDC ย้ายที่ทำการมาอยู่บริเวณเดียวกันกับบริษัท และมีการใช้ Shared service ร่วมกันเพื่อบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในไตรมาส 1/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายและจากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงเล็กน้อยจาก 51.8% ในไตรมาส 1/59 เป็น 51.1% ในไตรมาส 1/60 เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ขณะที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 31.9% จาก 32.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นตามลำดับ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทมีระยะเวลาขายสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 เดือนลดลงจาก 12.1 เดือน ณ สิ้นปี 59
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ MC กล่าวว่า ในไตรมาส 1/60 ยอดขายของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 6.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 59 ท่ามกลางกำลังซื้อที่แผ่วลงจากไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาตามทิศทางปกติของอุตสาหกรรม บริษัทได้รับประโยชน์จากการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าท่อนบน จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเปิดช่องทางและจุดขายใหม่ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายต่อร้านเดิมเพิ่มขึ้นในอัตรา 0.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ณ สิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทมีจุดจำหน่าย 883 แห่ง ลดลงจากสิ้นปี 59 ทั้งสิ้น 14 แห่ง จากการลดจุดจำหน่ายในประเทศ 4 แห่งและในต่างประเทศ 10 แห่ง ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโปรแกรมตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ (Dealership reprogram) ที่จะมุ่งเน้นการปันทรัพยากรอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างฐานลูกค้าและสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
“สินค้าที่บริษัทเน้นยังคงเป็นเสื้อผ้าท่อนบนที่มีแบบใหม่ ๆ มีดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยในไตรมาส 1 บริษัทจัดโปรโมชั่นที่นำเสนอความคุ้มค่าและให้ลูกค้ารู้สึกสนุกในการช้อปปิ้งซื้อสินค้า ทั้งที่หน้าร้านของเราเองและทางช่องทางจำหน่ายออนไลน์ สำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ที่วางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ Activewear แบรนด์ “UP" และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ “M&C" ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี"นางสาวสุณี กล่าว
นางสาวสุณี กล่าวอีกว่า สำหรับในไตรมาสที่เหลือของปี 60 บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาคอลเลกชั่นใหม่ ตลอดจนสายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยในไตรมาส 2 นี้ นอกเหนือจากคอลเลกชั่นเสื้อฮาวายที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีแล้ว บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ยีนส์คอลเลกชั่นใหม่ Mc MOVE Denim ที่มีนวัตกรรมผ้ายีนส์ที่มีส่วนผสมของ Lycra และ T400 ที่ให้ความยืดหยุ่นและคืนตัวดีเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมเคลื่อนไหว พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และยังมี Activewear คอลเลกชั่นใหม่ของ UP ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชอบออกกำลังกาย
ในส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C บริษัทจะมีการวางจำหน่ายไลน์สินค้าใหม่ ได้แก่ สบู่ก้อน แป้งหอม และน้ำหอม เพิ่มเติมจากโลชั่นและเจลอาบน้ำที่วางจำหน่ายในที่ร้านค้าปลีกของตนเองและ www.mcshop.com นอกจากนี้จะเปิดจุดจำหน่ายแบบ Pop-up store สำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเดียวในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเร็วๆ นี้อีกด้วย