EA คาด Q2/60 โซลาร์ฟาร์มเข้าไฮซีซั่นหลัง Q1/60 ภาพรวมกำไรโต 37.8%,ทั้งปีรับรู้พลังงานลมหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 15, 2017 12:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 มีรายได้รวม 2,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 241 ล้านบาท หรือ 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,442 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269 ล้านบาท หรือ 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 711 ล้านบาท คาดว่าในไตรมาส 2/60 นี้ จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มตามฤดูกาลเช่นเดียวกับทุกๆ ปี

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 60 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปีนี้ถือเป็นปีแรกที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้เต็มตลอดทั้งปี ประกอบกับได้เริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม จากโครงการหาดกังหัน 1 ขนาดกำลังการผลิต 36 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อรวมกับโครงการหาดกังหัน 2 และ 3 กำลังการผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เร็วๆ นี้ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์ม เพิ่มเป็น 404 เมกะวัตต์ ผลักดันให้รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุด (New High) ต่อเนื่อง และมีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้

ด้านแนวโน้มธุรกิจไบโอดีเซลในปี 60 กลับมาสดใสขึ้น หลังจากกรมธุรกิจพลังงานประกาศกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซล โดยปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลจาก 5% เป็น 7% หรือ บี 7 โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.60 ที่ผ่านมา หลังจากสต็อกน้ำมันปาล์มดิบเริ่มสูงขึ้นจากผลผลิตที่เข้ามามากขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจไบโอดีเซลเติบโตขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา

นายอมร กล่าวว่า แผนดำเนินงานในปี 60 นอกจากจะเดินหน้าลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 260 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาทแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงงานผลิตอุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) หรือ แบตเตอรี่ ขนาดกำลังการผลิต 50 Gwh หลังจากที่ได้ทำการลงทุนในบริษัท AmitaTechnologies Inc ประเทศไต้หวัน ในสัดส่วน 35.20% เรียบร้อยแล้ว ฃ

ปัจจุบันบริษัทอยู่ในขั้นการเตรียมการในรายละเอียดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อรวมกันผลักดันและวางแผนการลงทุนร่วมกัน ทั้งนี้ เทคโนโลยีแบตเตอรี่นี้เหมาะที่จะเริ่มนำมาใช้ในโรงไฟฟ้าเพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพของระบบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าด้วยต้นทุนการลงทุนที่ต่ำ รวมไปถึงการนำไปใช้ในยานพาหนะ โรงงาน อาคาร บ้านเรือน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ ครั้งใหม่ด้วยการรุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริมภายใต้โมเดลไทยแลนด์ 4.0 อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ