นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทมียอดคำสั่งซื้อถ่านหินล่วงหน้าจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทมียอดออเดอร์ล่วงหน้าที่เตรียมส่งมอบถึงไตรมาส 3/60 แล้ว และคาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศจีน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท ทำให้ AGE สามารถมั่นใจในการขยายการเจาะตลาดถ่านหินในประเทศจีนได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 60 บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตจากปริมาณการขายถ่านหินที่ 25-30% มาจากการขยายในประเทศและตลาดในประเทศจีน และเวียดนาม ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการให้บริการในคลังสินค้า ขนสินค้าผ่านท่าเรือ และให้บริการขนส่งทางน้ำแบบครบวงจร นอกเหนือจากรายได้จากการขายถ่านหินโดยบริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิต โดยการก่อสร้างโรงงานคัดร่อนเพิ่มเติม เพื่อการรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และเพื่อเพิ่มการรองรับ การให้บริการจากคลังสินค้าอีกด้วย
ในส่วนของรายได้จากการให้บริการท่าเรือในปี 60 บริษัทได้เพิ่มการบริการ การขนส่งทางน้ำ จากการให้บริการเรือเทกองขนส่งสินค้า จำนวน 8 ลำ ซึ่งบริษัทได้เริ่มดำเนินการจัดหาในช่วงปีที่ผ่านมา โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 60
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้ 1,257.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 930.55 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 10.88 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.06 ล้านบาท เนื่องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 44.81 ล้านบาท ส่งผลให้หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนบริษัทจะมีกำไร 55.69 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปริมาณการขายถ่านหินในไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 0.51 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณการขายถ่านหินอยู่ที่ 0.45 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลมาจากขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมียอดขายในประเทศ อยู่ที่ 0.45 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนจากการทำการตลาดในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหญ่
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากกลยุทธ์การขยายตลาดที่หลากหลายทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ถ่านหิน เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆมากขึ้น " นายพนม กล่าว