นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 61 มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากบริษัทลูกยังสามารถทำกำไรได้ดี ขณะที่ผลการดำเนินงานของ บมจ.ไอร่า แอนด์ ไอฟุล ที่ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้ ชื่อ A Money น่าจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่เดือน ธ.ค.60 ตามการคาดการณ์ของพันธมิตรญี่ปุ่น
หลังจากที่ผ่านมา A Money มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งการลงทุนด้านบุคลากร ไอที และการเปิดสาขา ซึ่งการเปิดสาขา A Money เฉลี่ยใช้เงินลงทุนราว 5-6 ล้านบาท/สาขา อีกทั้งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ของ A Money มูลค่าราว 5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สิ้นปีมีสินเชื่อคงค้างราว 2.5 พันล้านบาท และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเป็น 3 แสนราย จากปัจจุบัน 1.5 แสนราย
"เรายังมั่นใจว่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในปี 61 จากงวดผลการดำเนินงานในปี 60 ที่คาดว่าจะยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนอยู่ แต่บริษัทจะนำกำไรจาก บล.ไอร่า และบมจ.ไอร่า แฟคตอริ่ง มาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เพราะทั้ง 2 บริษัทมีผลการดำเนินงานที่มีกำไรมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ที่จ่ายปันผลไปก็นำกำไรจากทั้ง 2 บริษัทมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น"นางนลินี กล่าว
ทั้งนี้ AIRA แจ้งผลประกอบการปี 59 มีผลขาดทุน 107.84 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.019 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 98.96 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.021 บาท และผลประกอบการไตรมาส 1/60 ยังคงขาดทุนสุทธิ 32.43 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 22.18 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.004 บาท
นางนลินี กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าภายใต้ บมจ.ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ โดยบริษัทแรกที่เข้าลงทุน คือ บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารสำนักงานบริเวณสี่แยกราชเทวี มูลค่า 2 พันล้านบาท และบริษัทยังเตรียมพร้อมลงทุนเพิ่มอีก 2 โครงการ ที่เป็นอาคารสำนักงานในเขต CBD ของกรุงเทพใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างการมองหาอาคารที่เหมาะสมเพัอซื้อเข้ามาปรับปรุงและพัฒนาต่อ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินสิ้นปีนี้
เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทที่ถืออยู่ 60% หรือใช้เงินลงทุนไม่เกิน 600 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและเงินจากพันธมิตรเกาหลีและจีนที่ร่วมลงทุน สำหรับแหล่งเงินทุนของบริษัทจะมาจากกระแสเงินสด เงินที่ได้จากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิจะศื้อหุ้นสามัญของบริษัท ได้แก่ AIRA-W1 ราว 1 พันล้านบาท และ AIRA-W2 อีก 1.8 พันล้านบาท
นางนลินี กล่าวว่า หลังจากทั้ง 3 อาคารสำนักงานเริ่มเปิดดำเนินการในปี 62 บริษัทวางแผนจะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และขายสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ากองทรัสต์ฯ มูลค่ารวมทั้ง 3 อาคารอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เช่น พลังงานและโลจิกติกส์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนธุรกิจโลจิกติกส์ค่อนข้างมาก เพราะเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจจากกระแสการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ที่เริ่มมีบทบาทสำคัญ ทำให้บริษัทให้ความสนใจศึกษาอย่างจริงจัง หลังจากที่เคยขายบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวออกไปก่อนหน้านี้
ส่วนแผนการนำ บมจ.ไอร่า ลีสซิ่ง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คาดว่าเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 3/61 แต่ต้องติดตามภาวะตลาดและเศรษฐกิจว่ามีฟื้นตัวแล้วหรือไม่ ซึ่งหากฟื้นตัวดีอย่างชัดเจนก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนได้ โดย บมจ.ไอร่า ลีสซิ่ง เป็นหนึ่งในบริษัทที่สามารถสร้างกำไรได้เป็นอย่างดี ปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 400 ล้านบาท จากปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท