BRR คาดระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าภายใน Q3/60,เจรจาพันธมิตรสร้างรง.น้ำตาลใหม่-รุกผลิตไฟฟ้าชีวมวล

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRRGIF นั้น ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาแล้ว และคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยเม็ดเงินที่ได้จะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและต่อยอดธุรกิจน้ำตาลทรายและธุรกิจต่อเนื่อง

โดยล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 61 เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำตาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะในทวีปเอเชียที่ถือว่าเป็นตลาดน้ำตาลทรายที่มีพลวัตรสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความต้องการบริโภคปีละ 77-80 ล้านตัน แต่ผลิตได้เพียง 65-68 ล้านตัน และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ปีละ 1.6-1.7%

นอกจากนี้จากแผนการเพิ่มพื้นที่ปลูกอ้อยและปริมาณอ้อยที่จะเพิ่มขึ้นแตะ 3 ล้านตัน ทำให้บริษัทเตรียมลงทุนขยายธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงรอการเปิดรับซื้อไฟฟ้าชีวมวลของภาครัฐ ขณะที่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นอุตสาหกรรมเกษตรที่มีเสถียรภาพมากที่สุดอันหนึ่ง มีศักยภาพในการต่อยอดสู่อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและอุตสาหกรรมชีวภาพที่กำลังเป็นกระแสของโลก ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด (BEC) บริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด (BPC) ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 คือ บุรีรัมย์เพาเวอร์พลัส จำกัด (BPP) มีกำลังการผลิตโรงละ 9.9 เมกะวัตต์ (MW) เท่าๆ กัน โดย โรงไฟฟ้า BEC และ BPC ขายไฟให้กับการไฟฟ้าโรงละ 8 เมกะวัตต์ รวม 16 เมกะวัตต์

นายอนันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 2,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31% ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 18.40 % จากปีก่อนที่ 8.37%

กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 1 เป็นผลมาจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ควบคู่กับความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มประสิทธิผลการผลิต การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนักธุรกิจชาวไร่อ้อยตามปรัชญา “น้ำตาลสร้างในไร่" ประกอบกับรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าและปุ๋ยก็ปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับฤดูการผลิตปี 59/60 ซึ่งปิดหีบไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทสามารถหีบอ้อยได้รวม 2.21 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากฤดูการผลิตก่อนหน้าที่มีปริมาณอ้อย 2.06 ล้านตัน และได้ผลผลิตน้ำตาลทรายกว่า 251,000 ตัน ปัจจุบัน บริษัทยังมุ่งการพัฒนาด้านอ้อย การเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรและการขยายพื้นที่เพาะปลูก คาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบแตะ 3 ล้านตันในปีการผลิตหน้า

ขณะที่ทิศทางราคาน้ำตาลนั้นมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น หลังจากปัญหาภัยแล้งในประเทศผู้ผลิตสำคัญอย่างอินเดีย จีน และไทยคลี่คลายลง คาดราคาน้ำตาลตลาดโลกปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 15-18 เซ็นต์/ปอนด์ ส่วนในปีการผลิตปัจจุบันนี้ บริษัทได้ทำสัญญาขายน้ำตาลล่วงหน้าไปเกือบหมดแล้วในช่วงที่ราคาตลาดโลกสูงกว่า 20 เซนต์/ปอนด์ และจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสต่อ ๆ ไปตามสัญญาการส่งมอบน้ำตาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ