ECF เผย Q1/60 กำไรหด 25.44% จากผลงาน บ.ย่อยพลาดเป้า แม้รายได้รวมทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 1/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 18.63 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 24.99 ล้านบาท หรือลดลง 25.44% รับผลจากบริษัทย่อยที่ผลการดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับ บริษัทยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจด้านพลังงานในขณะที่รับรู้ค่าใช้จ่ายแล้ว

แต่ทั้งนี้หากเทียบกับไตรมาส 4/59 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้น 244.34%

ในไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 409.74 ล้านบาท เป็นตัวเลขรายได้รายไตรมาสที่ทำสถิติสูงสุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 383.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.97 ล้านบาท คิดเป็น 6.77% โดยธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์มียอดขายในประเทศเติบโตสูงขึ้น 21%

ขณะที่รายได้ส่งออกยังสามารถรักษาระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทคาดว่าตลาดต่างประเทศครึ่งปีหลังมีสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้นจากกลุ่มลูกค้าหลักในญี่ปุ่นที่จะมีปริมาณการสั่งซื้อมากขึ้นและมีลูกค้ารายใหม่เพิ่ม

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ 59% ภายในประเทศ 41%

นายอารักษ์ กล่าว่า ECF เน้นการทำตลาดในประเทศของทุกแบรนด์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย รวมถึงจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่าย อีกทั้งยังมีแผนขยายสาขาแบรนด์ ELEGA จากปัจจุบันมี 17 สาขา พร้อมกับขยายสาขาแบรนด์ FINNA HOUSE เพื่อจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ DISNEY เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมี 5 สาขา รวมถึงมีโอกาสเพิ่มยอดขายตามการขยายสาขาของกลุ่มโมเดิร์นเทรด

ส่วนธุรกิจร้านค้าปลีกรูปแบบร้าน 100 เยน (60 บาท) “Can Do" ปัจจุบันมีสาขารวม 7 แห่ง ได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก, โฮมโปร รัตนาธิเบศร์, โฮมโปร ราชพฤกษ์ อินเด็กซ์ ลีฟวิ่ง มอลล์ บางใหญ่ และลิตเติ้ล วอล์ค บางนา ในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 สาขา ซึ่งการขยายสาขาจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มยอดขายให้เติบโตได้ต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจพลังงานทดแทน ล่าสุดบริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (ECF-Power) บริษัทย่อยของบริษัท ได้รับมติจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ ของบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP) ณ เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศเมียนมา โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP ในสัดส่วน 20% ทั้งนี้อยู่ระหว่างรอมติอนุมัติการเข้าลงทุนดังกล่าวจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 พ.ค.60 นี้

“แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงต่อจากนี้จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ร้านค้าปลีก Can Do ธุรกิจพลังงานทดแทน คาดว่าว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน" นายอารักษ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ