นางรัชดาภรณ์ ราชเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ในไตรมาส 2/60 จะสูงกว่าไตรมาส 1/60 ที่อยู่ในระดับ 15 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจากขณะนี้มีผู้ผลิตในอุตสาหกรรมหลายรายปิดปรับปรุงโรงงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณซัพพลายด์ในตลาดลดง ส่งผลให้ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (เสปรด) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ช่วยหนุน GIM
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดว่า GIM ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากไปถึงไตรมาส 3/60 หากทิศทางราคาน้ำมันกลับมาฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี และมีความผันผวนลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงคาดการณ์ระดับ GIM เฉลี่ยในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
ด้านกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 60 บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไปแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปีนี้ยังมีโครงการใหม่ที่ขยายกำลังการผลิตเข้ามาเสริม คือ โครงการ PPE ที่จะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน มิ.ย.นี้ และโครงการ PPC ที่จะเริ่มผลิตในเดือน ก.ค.นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทมองว่าหากราคาน้ำมันดิบในปีนี้ยังสามารถยืนอยู่เหนือกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จะทำให้บริษัทยังสามารถมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันได้ในทุกไตรมาส ซึ่งบริษัทมองว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 52-53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยไตรมาส 1/60 ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้บริษัทยังมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน
นางรัชดาภรณ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสต่อๆไปจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/60 โดยเฉพาะ EBITDA หลังจากที่การปรับปรุงครั้งใหญ่ในปีนี้ผ่านพ้นไปในช่วงไตรมาส 1/60 และบริษัทมั่นใจว่าโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถองค์กรในทุกด้าน จะยังสามารถเพิ่ม EBITDA ได้ตามเป้าที่ 7 พันล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 1/60 จะทำได้เพียง 681 ล้านบาท
และหลังจากการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 แสนตัน/บาร์เรล/วัน แต่กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำลังผลิต 1.8-1.85 แสนตัน/บาร์เรล/วัน โดยเฉลี่ยทั้งปีนี้น่าจะอยู่ในระดับ 1.78 แสนตัน/บาร์เรล/วัน เพราะได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 1/60
สำหรับแผนการต่อยอดโครงการ EVEREST ไปสู่โครงการ BEYOND EVEREST นั้น บริษัทจะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในไตรมาส 3/60 ภายใต้งบลงทุนเบื้องต้น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อผลิตพาราไซลีน และเพิ่มกำลังผลิตเอทิลีน
ส่วนการขายที่ดินในบ้านค่าย จ.ระยอง พื้นที่ 2,037 ไร่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.60 ว่าบริษัทจะขายที่ดินให้กับผู้สนใจที่ชนะการประมูลรายใด แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังเปิดโอกาสให้พันธมิตรยื่นข้อเสนอร่วมทุนเพื่อพัฒนาที่ดินดังกล่าวเป็นนิคมอุตสาหกรรม โดยจะต้องพิจารณาผลตอบแทนว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่
"การพัฒนาที่ดินเป็นนิมอุตสหกรรมบริษัทสามารถพัฒนาได้ทันที เพราะได้รับใบอนุญาตแล้ว ส่วนการประกาศให้ผู้สนใจเสนอราคาและข้อเสนอเข้ามา ส่วนที่ดินที่อ.จะนะ จ.สงขลา จำนวน 3,000 ไร่ ยังไม่มีแผนที่จะขายออก"นางรัชดาภรณ์ กล่าว