นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่ประกาศออกมาพบว่าตลาดโดยรวมชะลอตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวยมากนัก โดยมีการชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 59
อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการประเมินสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมได้ถูกต้อง จึงดำเนินการวางแผนงานกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลทำให้บริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ขยายตัวได้ โดยมียอดรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกนี้ที่ 662.1 ล้านบาท ขยายตัวราว 14% และบริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท
สำหรับการขยายธุรกิจในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป โดยตามแผนงาน บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่อีกราว 5 - 6 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.86 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ตลอดจนมีวงเงินสำรองที่ไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวนมาก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี