บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการเติบโต (Year of Growth) ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในไตรมาสแรกเติบโตถึง 28% โดย TFG จะขยายทั้งสี่แกนหลักของธุรกิจ ไก่ สุกร และ อาหารสัตว์ และ อาหารแปรรูป ประกอบด้วย ฟู้ดส์เซอร์วิส และไส้กรอก โดยได้รับผลดีจากปริมาณการผลิตไก่ สุกร อาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
บริษัทมีนโยบายและกลยุทธ์หลักในการสร้างความยั่งยืนทั้งรายได้และกำไร โดยจะขยายการผลิต การขายและการบริการเข้าสู่ตลาดที่ใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การสร้างโรงงานไก่ปรุงสุกเพื่อการส่งออก ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่เสริม ธุรกิจไก่แปรรูปและปรุงสุก และธุรกิจซ้อสปรุงรส และ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้ 5,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 4,627 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.6% และมีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพ ทำให้มีกำไรสุทธิเท่ากับ 157.8 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/59 พบว่าผลประกอบการมีสัญญานที่ดีขึ้น โดยรายได้จากการขาย 5,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 4/59 ส่วนกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นกว่า 200%
TFG ระบุว่า รายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/60 มาจากธุรกิจไก่ โดยทำรายได้ 3,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาขายไก่เฉลี่ยเท่ากับ 38.4 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 ที่ 35.6 บาท/กิโลกรัม และปริมาณขายผลิตภัณฑ์ไก่มีจำนวน 90,260 ตัน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 1/59 ที่มีจำนวน 72,910 ตัน
ส่วนรายได้จากธุรกิจสุกรมีจำนวน 1,375.7 ล้านบาท ทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณขายมากขึ้นแต่ราคาขายลดลง ราคาสุกรเท่ากับ 55.0 บาท/กิโลกรัม ลดลงจากไตรมาส 1/59 ที่ 60.7 บาท/กิโลกรัม และปริมาณการขายมีจำนวน 22,549 ตัน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 1/59 ที่มีจำนวน 18,517 ตัน
TFG ระบุอีกว่า ในไตรมาสแรก 1/60 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 488 ล้านบาท หรือ 8.3% ของรายได้การขาย (ในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วมีกำไรขั้นต้น 232 ล้านบาท หรือ 5.2% ของรายได้การขาย) ส่วนการบริหารต้นทุน ผลิต Feed-Farm-Foods และ วัตถุดิบทั้งในและนำเข้าจากต่างประเทศปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกมีค่าใช้จ่ายการบริหารสูงขึ้น และ ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย และ ขายสูงขึ้น เช่นค่าใช้จ่ายสินค้าส่งออก ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายโมเดิรนเทรด เป็นผลให้กำไรสุทธิต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ ซึ่งบริษัทจะเดินหน้าบริหารค่าใช้จ่ายให้ลดลงในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อไป