HTECH คาด Q2/60 โตต่อเนื่องหลัง Q1/60 กำไรโต 81% เชื่อใกล้ได้ไฟเขียวย้ายเข้า SET

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) คาดว่า ในไตรมาส 2/60 ผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากสภาวะตลาดที่มีการฟื้นตัวหลังประสบสภาวะซบเซาในช่วงต้นปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Hi-end ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงมากกว่ากลุ่มสินค้าเดิม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มั่นใจเป้าหมายรายได้ทั้งปี 60 เติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10% จากปีที่ผ่านมา

“บริษัทฯเริ่มเห็นทิศทางผลประกอบการที่ดีขึ้นจากสภาวะตลาดที่ฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 59 นับตั้งแต่ตลาดซบเซา HTECH เริ่มมีการปรับตัว ทั้งโครงสร้างการจัดการ การบริหารต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย และลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการผลิตสินค้า Hi-end พอตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมาดีอีกครั้ง ทำให้เรามีความพร้อมในการรับคำสั่งซื้อ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงลงทุนต่อเนื่องทั้งโรงงานผลิตเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ไม่เกินต้นไตรมาส 3/60 รวมถึงโรงงานใหม่ที่ประเทศไทยจะเริ่มผลิตในปลายไตรมาส 3/60 หรือต้นไตรมาส 4/60 จะช่วยหนุนรายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นได้อีก และมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้โต 8-10% ตามที่วางไว้ไม่ทำให้ผิดหวัง" นายพีท กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 238.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 38.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.10 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 81.15% เป็นผลมาจากการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ส่งผลให้มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เดิมและกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นสินค้า Hi-end ซึ่งเริ่มมีคำสั่งซื้อและผลิตตั้งแต่ปลายปี 59 โดยที่ผ่านมาส่งมอบสินค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับสภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จะเห็นได้จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น จากเครื่องจักรใหม่ การควบคุมภายในลดการสูญเสียในสายการผลิตนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่ ส่วนค่าใช้จ่ายไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเนื่องจากบริษัทย่อยเริ่มคงที่ จึงส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีค่าใช้ภาษีเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทใหญ่หมดลงในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนความคืบหน้าในการย้ายหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในไตรมาส 2 ปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ