DTC ประคองกำไร Q1/60 เข้าเป้า แม้รายได้ธุรกิจโรงแรมลดลงรับผลแข่งขันสูง-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 17, 2017 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี (DTC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.60) เป็นไปตามคาดการณ์ โดยกลุ่มดุสิตธานีมีผลกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการรับจ้างบริหารโรงแรมและรายได้จากธุรกิจการศึกษา ขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมปรับตัวลดลง เนื่องจากสภาพการแข่งขันสูง ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการจัดโครงสร้างองค์กรภายใน และมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อรองรับกับการขยายตัวของธุรกิจ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น

"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก เป็นไปตามคาดการณ์ของฝ่ายบริหาร เพราะเราประเมินถึงผลกระทบจากการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมว่า จะมีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น เราจึงใช้ความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้กลุ่มดุสิตธานียังคงมีกำไรจากการดำเนินงาน"นางศุภจี กล่าว

อนึ่ง DTC รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/60 มีกำไรสุทธิ 123.84 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.147 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 153.86 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.182 บาท

นางศุภจี กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีกำหนดแผนงานระยะ 10 ปี ระหว่างปี 59-68 โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ แผนระยะ 3 ปีแรก (59-61) ซึ่งเป็นช่วงที่เน้นเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง แผนระยะกลาง (62-64) เป็นช่วงของการรับรู้ศักยภาพในการเติบโต หลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่แล้วเสร็จและเปิดให้บริการ

และแผนระยะยาว (65-68) ซึ่งจะเป็นช่วงของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ หลังจากโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมหรือมิกซ์-ยูส เสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ

นางศุภจี กล่าวว่า ในช่วงนี้อยู่ในช่วงที่กลุ่มดุสิตธานีดำเนินงานอยู่ภายใต้แผนระยะ 3 ปีแรก เป็นช่วงเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งด้วยการวางทิศทางและกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสเติบโตในอนาคต จึงนับเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เพราะการจะวางรากฐานให้แข็งแกร่งนั้นจะต้องอาศัยการพัฒนาบุคลากร การปรับปรุงกระบวนการในการทำงาน การพัฒนาระบบเทคโนโลยี การพัฒนาด้านสินทรัพย์ และสุดท้าย คือ การพัฒนาขีดความสามารถทางการเงิน

ดังนั้น ทำให้ดุสิตธานีมีความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของบุคลากร โครงสร้างองค์กร การลงทุนในธุรกิจ หรือการซ่อมแซมสินทรัพย์ที่มีอยู่ ซึ่งทำให้บริษัทอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นช่วงการวางรากฐานที่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนมากกว่าปกติ แต่บริษัทพยายามที่จะรักษาผลการดำเนินงานให้ใกล้เคียงกับที่เป็นอยู่ ดังนั้น ตามแผนพัฒนาระยะแรกนี้จึงยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะเห็นการเติบโตของดุสิตธานีอย่างชัดเจน จนกว่าจะถึงแผนระยะที่ 2 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้าที่บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนต่างๆ

ขณะที่ธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มนั้น แม้ว่าการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมาจะมีความรุนแรงขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว แต่ฝ่ายบริหารก็ยังมีความมั่นใจว่าด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ “ดุสิตธานี" จะยังคงทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันได้อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ